โบรกฯ เผยแรงขายต่างชาติยังไม่หยุดง่ายๆ เผยเม็ดเงินพร้อมขายยังอยู่อีก 2 แสนล้าน ชี้การเมืองระอุ “จีดีพี” ชะลอตัว และกำไร บจ. ที่ลดลงถือเป็นเป็นตัวเร่งเม็ดเงินไหลออกเร็ว
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยอาวุโส บล.เอเซีย พลัส ประเมินภาพรวมการขายต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ ตลอดช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า ดัชนีหุ้นไทยยังคงได้รับแรงกดดันแรงขายออกของนักลงทุนต่างชาติที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พบว่าเม็ดเงินลงทุนต่างชาตินับจากปี 2552 จนถึงเดือน พ.ค.2556 มียอดซื้อสุทธิเข้ามากกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งแม้ว่าจะขายหนัก และต่อเนื่องแต่ยังมีเม็ดเงินที่พร้อมจะขายอยู่
นอกจากนี้ ปัจจัยการเมืองในประเทศที่ร้อนแรง การปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) รวมถึงอัตรากำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่เติบโตลดลง ล้วนเป็นตัวเร่ง และแรงผลักสำคัญที่ทำให้เม็ดเงินทุนเคลื่อนย้ายออกไป
“แนะนำว่า ในภาวะแบบนี้แนะนำให้นักลงทุนรอดูสถานการณ์ หรือหากจะลงทุนก็ให้เลือกหุ้นพื้นฐานที่จ่ายปันผลดี”
ด้านนายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ระบุว่า แนวโน้มตลาดในสัปดาห์หน้า (26-30 ส.ค.) คาดว่าจะยังมีความผันผวนมาก โดยแนะนำให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะมีการประกาศออกมา โดยเฉพาะในวันที่ 29 ส.ค. สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจครั้งที่ 2 พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวของดัชนีไว้ที่ 1,330-1,370 จุด
สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,338.13 จุด ปรับตัวลดลง 13.68 จุด หรือ -1.01 มูลค่าการซื้อขาย 46,025.11 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,370.40 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,337.99 จุด
โดยภาพรวมดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ เป็นการปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาค และสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2,862.01 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 100.78 ล้านบาท ในขณะที่บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 2,415.34 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 547.45 ล้านบาท