หุ้นรีบาวนด์แรง 17 จุด ผ่อนคลายการเมือง แนวโน้มถัดไปส่อพักฐานเพราะไร้ปัจจัยใหม่หนุน หากหมดข่าวผลประกอบการ Q2 ขณะที่ต่างชาติพักพอร์ตไม่เข้าลงทุน และสถาบันในประเทศก็ยังไม่มีเงินใหม่เข้ามา ตอนนี้คงมีเพียงรายย่อยกับพอร์ตโบรกเกอร์เท่านั้น และเลือกลงทุนเป็นรายตัว
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (8 ส.ค.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,447.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.17 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.2% มูลค่าการซื้อขาย 38,828.98 ล้านบาท ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนต่างชาติขาย 3.3 พันล้าน รายย่อยซื้อ 944 ล้าน สถาบันซื้อ 1 พันล้าน บัญชีโบรกเกอร์ซื้อ 1.3 พันล้าน
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสายวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง ยอมรับว่า ภาวะหุ้นวันนี้ เป็นการรีบาวนด์กลับได้เพราะจากความผ่อนคลายจากสถานการณ์ทางการเมือง แต่จากนี้ไปหุ้นไม่มีปัจจัยรองรับที่ชัดเจน และคาดว่าหุ้นจะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบไปสักพัก ก่อนที่จะค่อยๆ เข้าสู่การปรับฐาน เพราะไร้ปัจจัยสนับสนุนที่ชัดเจน
นายวิกิจ ยอมรับว่า ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนตลาดในตอนนี้พบว่ามีอยู่เพียงเรื่องเดียว คือ การประกาศงบผลประกอบการไตรมาส 2/2556 หลังจากหมดเรื่องนี้แล้ว ตลาดหุ้นคงจะซึมไปสักพักหรือประมาณ 2 เดือน เพื่อรอปัจจัยใหม่เข้ามา ประกอบกับในระหว่างนี้นักลงทุนต่างชาติพักพอร์ต และสถาบันในประเทศก็ยังไม่มีเงินใหม่เข้ามาลงทุน การลงทุนจะมีเพียงรายย่อยกับพอร์ตโบรกเกอร์เท่านั้น
อย่างไรก็ดี มองว่าปัจจัยที่จะเข้ากดดันหุ้นได้ระหว่างนี้คือ การพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เหมาะสำหรับเลือกลงทุนเป็นรายตัวเท่านั้น ให้แนวต้าน 1,460 จุด และแนวรับ 1,435 จุด
ด้าน นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นแรงจากความคลายกังวลปัญหาทางการเมือง หลังจากสถานการณ์ชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้มีเหตุการณ์ร้ายแรง เพราะนับตั้งแต่การสถานการณ์การเมืองเริ่มร้อนแรง หรือตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวิปรัฐบาลระบุจะนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่ที่ประชุมสภา ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงไปโดยประเมินว่าจะเลวร้ายมาก แต่เมื่อไม่มีเหตุรุนแรงดัชนีก็ขึ้น
ส่วนแนวโน้มดัชนีวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากความกังวลเรื่องการเมืองยังคงกดดันอยู่ และจะต่อเนื่องไปจนกว่าจะมีความชัดเจน ดังนั้น แนวโน้มดัชนีน่าแกว่งตัวอยู่ในกรอบระดับ 1,450-1,460 จุด ซึ่งหากดัชนีมาอยู่ในระดับ 1,450 จุด มองว่าเป็นจุดที่นักลงทุนจะหาหุ้นพื้นฐานดีเพื่อลงทุน เช่น หุ้นในกลุ่มสื่อสาร และวัสดุก่อสร้าง