xs
xsm
sm
md
lg

“เกศรา” คาดหุ้นไทยปรับตัวระยะสั้น ไม่หวั่นเพราะค่า P/E หุ้นไทยยังสูง และมาร์เกตแคปโตต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รองผู้จัดการ สายงานการตลาด ตลท. ไม่หวั่นหุ้นไทยดิ่ง เผยเพียงระยะสั้นจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นหลัก แม้ฝรั่งขายหุ้นไทย 1 แสนลบ. ไม่กระทบ Market Cap เพราะมากกว่า 12 ล้านล้านบาท และค่า P/E 15 เท่า ชี้ปลายปีหุ้นไทยสดใส บจ.จ่อรอเข้าเทรดอีกเพียบ

นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ สายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า เฉลี่ยนักลงทุนต่างประเทศที่ทยอยขายหุ้นจากตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนกรฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งสรุปยอดสุทธิล่าสุด ประมาณ 1.7 แสนล้านบาทแล้ว แต่โดยรวมแล้วยังถือว่าไม่มากหากเทียบกับปริมาณยอดการขายของปี 2008 ซึ่งถือว่าเป็นภาวะวิกฤตของเศรษฐกิจในขณะนั้น ส่วนหนึ่งมาจากสถาบันการเงินในสหรัฐฯ เป็นหลัก ซึ่งขณะนั้นมีนักลงทุนต่างชาติทยอยขายหุ้นไทยรวมกว่า 1.6 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์นี้ยังไม่รุนแรงมากนัก หากเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหุ้นไทย หรือ Market Cap ในปัจจุบันซึ่งอัตราเฉลี่ยประมาณ 12 ล้านล้านบาท หากเทียบกับยอดขายของนักลงทุนที่หายหุ้นไทยออกไปเพียง 1 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นเม็ดเงินที่ไหลออกน้อยมาก ขณะที่นักลงทุนรายย่อยในปีนี้กลับเพิ่มจำนวนยอดบัญชีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งปี ตลท.ตั้งเป้ายอดบัญชีนักลงทุนรายใหม่ปีนี้ไว้ที่ 7 หมื่นบัญชี ขณะที่ครึ่งปีแรกมีนักลงทุนเข้ามาเปิดบัญชีใหม่ โดยไม่ซ้ำกับยอดบัญชีเก่าแล้วกว่า 9.6 หมื่นบัญชี

ในส่วนของตลาดอนุพันธ์นั้น ตั้งแต่ต้นปีมีฐานนักลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 12% ถึงแม้ว่าขณะนี้จะมีความผันผวนเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นทั่วโลกทำให้มีปัจจัยกระทบตลาดบ้าง โดยมีอัตราปรับตัวขึ้นลงเฉลี่ยที่ 30-40 จุด แต่อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังให้ความสนใจในการลงทุน 3 ประเภทหลัก คือ Index Futures, Single Stock Futures และ Dollar Futures โดยตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดอนุพันธ์สามารถยื่นเอกสารต่อสำนักหักบัญชี และได้รับเงินสดจริงจากธนาคารกรุงไทยได้เลย

ขณะเดียวกัน ที่นักลงทุนรายย่อยต้องแบกรับความเสี่ยงจากการลงทุนที่แตกต่างจากสถาบันในส่วนของความเสี่ยงจากการลงทุน เนื่องจากสถาบันมีเฮจจิ้งซึ่งสามารถใช้เฮจจิ้งลดความเสี่ยงได้เลย ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับนักลงทุนรายย่อย โดยขณะนี้ทาง ตลท.อยู่ในระหว่างพิจารณาที่จะออกเครื่องมือสำหรับนักลงทุนรายย่อยเพื่อลดความเสี่ยง และสร้างความเท่าเทียมกันในการลงทุน

“อย่างไรก็ดี คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปลายปีนี้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ในระดับ 1,500 จุด เนื่องจาก Market Cap ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านล้านบาท และค่า P/E ของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ประมาณ 15 เท่า ประกอบกับยังมีบริษัทจดทะเบียนที่รอเข้าซื้อขายหุ้น IPO อีกหลายบริษัท ซึ่งจะสามารถดึงความสนใจจากนักลงทุนทั้งไทย และต่างประเทศเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้อีกมาก”

 
กำลังโหลดความคิดเห็น