SPCG รายได้พุ่งแรง 2 ไตรมาสในปีนี้กวาดไป 1.1 พันล. ผลกำไรโตกระฉูด 343 เปอร์เซ็นต์ เล็งติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาให้ได้พันรายตามเป้า
น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ “SPCG” เปิดเผยว่า ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงมติการประชุมคณะกรรมการบริษัทประจำเดือนสิงหาคม 2556 เกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2556 โดยสามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 150.21 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2555 แล้วพบว่า ธุรกิจเติบโตเพิ่มขึ้น 343.49 เปอร์เซ็นต์ โดยมีรายได้จากการขาย และการให้บริการ 285.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.09 เปอร์เซ็นต์ รายได้หลักมาจากการจำหน่ายไฟฟ้าของบริษัทย่อยของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ ฟาร์ม ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จมาก่อนไตรมาสที่ 2 ปี 2556 จึงสามารถผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าได้เต็มงวด จำนวน 16 บริษัท
สำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของ SPCG ในช่วงเพียง 6 เดือนแรกของปีนี้ สามารถทำได้ประมาณ 1,157 ล้านบาท เปรียบเทียบแล้วใกล้เคียงกับรายได้ตลอดทั้งปี 2555 ทำไว้ 1,275 ล้านบาท ส่วนโซลาร์ ฟาร์ม ในเครือของบริษัท จนถึงขณะนี้สามารถจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เรียบร้อยแล้ว 22 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า 144 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าเพื่อรอจำหน่ายอีก 8 โครงการ ที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 6 โครงการ ซึ่งทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในปี 2556 จากนั้นบริษัทจะรับรู้รายได้จากโซลาร์ ฟาร์ม 36 โครงการ
ส่วนธุรกิจในเครือที่เพิ่งจะเปิดดำเนินการใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 คือ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด หรือ SPR ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าภาคครัวเรือนตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีการสมัครโครงการ “โซลาร์ รูฟ แบรนด์ แอมบาสเดอร์” เพื่อติดตั้งแผงโซลาร์ เซลล์ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาได้ใกล้เคียงเป้าหมาย 1,000 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างทยอยให้บริการติดตั้งเพื่อผลิตพลังงานใช้เองภายในบ้าน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มเห็นผลความสำเร็จเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น
น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ “SPCG” เปิดเผยว่า ได้รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงมติการประชุมคณะกรรมการบริษัทประจำเดือนสิงหาคม 2556 เกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2556 โดยสามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 150.21 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2555 แล้วพบว่า ธุรกิจเติบโตเพิ่มขึ้น 343.49 เปอร์เซ็นต์ โดยมีรายได้จากการขาย และการให้บริการ 285.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.09 เปอร์เซ็นต์ รายได้หลักมาจากการจำหน่ายไฟฟ้าของบริษัทย่อยของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ ฟาร์ม ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จมาก่อนไตรมาสที่ 2 ปี 2556 จึงสามารถผลิต และจำหน่ายไฟฟ้าได้เต็มงวด จำนวน 16 บริษัท
สำหรับผลการดำเนินงานโดยรวมของ SPCG ในช่วงเพียง 6 เดือนแรกของปีนี้ สามารถทำได้ประมาณ 1,157 ล้านบาท เปรียบเทียบแล้วใกล้เคียงกับรายได้ตลอดทั้งปี 2555 ทำไว้ 1,275 ล้านบาท ส่วนโซลาร์ ฟาร์ม ในเครือของบริษัท จนถึงขณะนี้สามารถจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เรียบร้อยแล้ว 22 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า 144 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าเพื่อรอจำหน่ายอีก 8 โครงการ ที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง 6 โครงการ ซึ่งทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในปี 2556 จากนั้นบริษัทจะรับรู้รายได้จากโซลาร์ ฟาร์ม 36 โครงการ
ส่วนธุรกิจในเครือที่เพิ่งจะเปิดดำเนินการใหม่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 คือ บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด หรือ SPR ก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าภาคครัวเรือนตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีการสมัครโครงการ “โซลาร์ รูฟ แบรนด์ แอมบาสเดอร์” เพื่อติดตั้งแผงโซลาร์ เซลล์ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาได้ใกล้เคียงเป้าหมาย 1,000 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างทยอยให้บริการติดตั้งเพื่อผลิตพลังงานใช้เองภายในบ้าน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มเห็นผลความสำเร็จเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น