xs
xsm
sm
md
lg

AP รับอานิสงส์ยอดโอนคอนโดฯ หนุนรายได้-กำไรไตรมาส 2 โตต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนุพงษ์ อัศวโภคิน
“เอพี” โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 รายได้รวม และกำไรปรับตัวสูงขึ้น รับอานิสงส์ยอดโอนคอนโดฯ เผยยอดจองปัจจุบันสูงถึงเกือบ 10,000 ล้านบาท ระบุแบ็กล็อกเกือบ 30,000 ล้าน ลั่นทั้งปียอดขายทะลุเป้า

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP  กล่าวถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี 2556 ว่า รายได้รวม และกำไรปรับตัวสูงขึ้นตามคาด พิสูจน์ด้วยรายได้รวมกว่า 4,286 ล้านบาท ซึ่งรายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลมาจากการโอนคอนโดมิเนียมใหม่รวมทั้งสิ้น 2 โครงการ ได้แก่ RHYTHM สุขุมวิท 50 และ Aspire พระราม 4 โดย 40% ของรายได้ทั้งหมดเกิดจากคอนโดมิเนียม และ 60% จากโครงการแนวราบ ตอกย้ำภาพกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ซื้อเพื่ออาศัยจริง

ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 452 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (223 ล้านบาท) สะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพสินค้า AP โดย 5 อันดับโครงการที่ส่งผลต่อรายได้รวมในไตรมาส 2 ของปีนี้ ได้แก่  โครงการ RHYTHM สุขุมวิท 50 สัดส่วนต่อรายได้รวม 16.0% สถานะการส่งมอบไปแล้ว 27.0% โครงการ Aspire พระราม 4 สัดส่วนต่อรายได้รวม 10.9% การส่งมอบแล้ว 17.5% โครงการ The Address สาทร สัดส่วนต่อรายได้รวม 7.9% การส่งมอบไปแล้ว 68.3%

โครงการบ้านกลางเมือง สาทร-ตากสิน 2 สัดส่วนต่อรายได้รวม 4.2% สถานะการส่งมอบไปแล้ว 49.8% และโครงการ The Pleno สุขสวัสดิ์ 30 สัดส่วนต่อรายได้รวม 3.8% และสถานะการส่งมอบไปแล้ว 55.4%

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงวด 6 เดือนของปี 56 บริษัทมีรายได้รวม 7,161.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 7,086.53 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิสามารถทำได้ 674.84 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 55 ที่ทำได้ 884.69 ล้านบาท เหตุมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจาก 5,852.7 ล้านบาท มาเป็น 6,206.2 ล้านบาทในงวดครึ่งปี

มั่นใจทั้งปีทะลุ 2 หมื่นล้าน

ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน (4 ส.ค.56) บริษัทฯ มียอดจองที่สูงถึง 9,504 ล้านบาท คิดเป็น 43% ของเป้ายอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 22,000 ล้านบาท โดยเป็นแนวราบ 4,925 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4,579 ล้านบาท

ในส่วนสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ ปัจจุบัน (4 ส.ค.56) บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้สูงถึง 29,680 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าแนวราบมูลค่า 3,394 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ทั้งหมดภายในครึ่งปีหลังของปี 2556 และสินค้าคอนโดมิเนียม มูลค่า 26,286 ล้านบาท รอรับรู้รายได้ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้ มูลค่า 7,100 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมเพิ่มอีก 2 โครงการ ได้แก่ RHYTHM สุขุมวิท 44/1 และ RHYTHM พหล-อารีย์ ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้จนถึงปี 2560

ดังนั้น บริษัทจะมีสินค้าที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ในมือแล้วทั้งสิ้น 17,600 ล้านบาท หรือ 87% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 20,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าส่วนที่เหลือจะมาจากสินค้าที่จะเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 16 โครงการ (บ้านเดี่ยว 4 โครงการ, ทาวน์เฮาส์ 9 โครงการ และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ) มูลค่ารวมกว่า 16,015 ล้านบาท.
กำลังโหลดความคิดเห็น