xs
xsm
sm
md
lg

ก.ล.ต.เผย “ศรีสวัสดิ์ฯ” เตรียมเข้าตลาดระดมทุน เปิดขายไอพีโอ 250 ล้านหุ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก.ล.ต. เผย “ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์” ยื่นไฟลิ่งแล้ว 7 ส.ค. โดยขออนุญาตขายหุ้นไอพีโอ 250 ล้านหุ้น หวังระดมเงินใช้ชำระคืนเงินกู้บางส่วน และใช้ขยายการปล่อยสินเชื่อ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นข้อมูลเบื้องต้น หรือ Filing เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2556 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 250 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทมีความประสงค์จะเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยแต่งตั้ง บล.เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อใช้ขยายการปล่อยสินเชื่อ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงใช้ชำระคืนหนี้เงินกู้บางส่วน

บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อแบบมีหลักประกัน ครอบคลุมรถทุกประเภท บ้านและที่ดิน สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ และสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้ บริษัทมีบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1982 จำกัด และบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด และมีจุดให้บริหารทั้งหมดรวม 385 สาขา ภายใต้เครื่องหมายบริการ/ชื่อทางการค้า “มีบ้าน มีรถ เงินสดทันใจ”

บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท เรียกชำระแล้ว 750 ล้านบาท หลังเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้แล้ว บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 26 มิ.ย.2556 คือ กลุ่มแก้วบุตตา 80.67% หลังเสนอขายไอพีโอในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 60.51% บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองตามที่กฏหมายกำหนด โดยพิจารณาจากงบการเงินรวมสำคัญบริษัท และงบเดี่ยวสำหรับบริษัทย่อย

ภาพรวมผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของปี 2553-2555 กลุ่มบริษัท มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 557.24 ล้านบาท เป็น 1,306.15 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย 53.1% ต่อปี (CAGR) ซึ่งเป็นผลจากการขยายสาขาการให้บริการเพิ่มขึ้นจาก 205 สาขาในปี 2553 เป็น 348 ในปี 2555 ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อของกลุ่มบริษัทขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 42.78% ต่อปีจาก 1,960 ล้านบาทในปี 2553 เป็น 3,995 ล้านบาท ในปี 2555

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2556 บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 44.15% โดยเพิ่มขึ้นจาก 276.07 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2555 เป็น 397.95 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2556 เนื่องจากจำนวนสาขาได้เพิ่มขึ้นจาก 287 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2555 เป็น 385 สาขา ณ วันที่ 31 มีนาคม 2556 ในขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 106.26 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2555 เป็น 143.46 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2556 คิดเป็นอัตราเติบโต 35.01% อันเป็นมาจากรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นจากความสามารถในการขยายสินเชื่อและจากอัตราภาษีที่ลดลงจาก 23% ในปี 2555 เป็น 20% ในปี 2556
กำลังโหลดความคิดเห็น