“บินไทย” เร่งยกเครื่อง “ครัวการบิน” พร้อมปรับลุคใหม่ เล็งดันเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปี พร้อมคาดปี 56 โกยรายได้ 6,587 ล้านบาท และมีกำไร 650 ล้านบาท
นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้โครงการ “Thai Select” เพื่อเผยแพร่ตราสัญลักษณ์ Thai Select ให้แก่อาหารไทย ร้านอาหารไทย และการให้บริการอาหารบนเครื่องบินในทุกเส้นทางบินของการบินไทย โดยกรมฯ จะเข้ามาตรวจสอบกระบวนการผลิตอาหาร และให้การรับรอง และเพื่อให้เป็นไปตามแนวคิด “The Best Thai Restaurant in the Sky” ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทยจะร่วมคัดสรร และปรับปรุงรสชาติรายการอาหารไทยที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ 14 รายการ ได้แก่ แกงเผ็ดไก่ใส่ฟัก แกงมัสมั่นเนื้อ/ไก่ แกงเขียวหวานเนื้อ/ไก่ ผัดกะเพราไก่ พะแนงคอหมู กุ้งทอดกระเทียม ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยกุ้ง ข้าวมันส้มตำ ข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ต้มยำกุ้ง และต้มข่าไก่ เพื่อให้คงรสชาติไทยแบบดั้งเดิม ซึ่งเมนูอาหารไทยบนเครื่องบินที่ได้รับการปรับปรุงคุณภาพใหม่นี้ เริ่มหมุนเวียนให้บริการผู้โดยสารทุกชั้นการเดินทางในทุกเที่ยวบินของการบินไทยที่ออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความร่วมมือระหว่างการบินไทยกับกระทรวงพาณิชย์ครั้งนี้ จะช่วยยกระดับคุณภาพอาหารไทย และการให้บริการอาหารไทยบนเครื่องบินเป็นให้เป็นไปตามมาตรฐานตราสัญลักษณ์ Thai Select ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มอาหารไทยที่ให้บริการบนเครื่องบิน และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้อาหารไทยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปยังนานาประเทศภายใต้โครงการ “ครัวไทย สู่ครัวโลก” ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ด้านเรืออากาศโทสุรพล อิศรางกูร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการฝ่ายครัวการบิน ยอมรับว่า ธุรกิจครัวการบินมี 2 ส่วนหลัก คือ 1.การผลิตอาหารเพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารสายการบิน ซึ่งปัจจุบันครัวการบินมีสายการบินลูกค้า จำนวน 65 สายการบิน และในเร็วๆ นี้ จะมีลูกค้าเพิ่มอีก 2 ราย คือ สายการบินนอร์วีเจียน แอร์ไลน์ส และสายการบินเอเชีย แอตแลนติก โดยการให้บริการส่วนนี้ถือเป็นบริการหลัก มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 70%
2.การผลิตอาหารเพื่อให้บริการภาคพื้น (On Ground) มีสัดส่วนรายได้ 30% ประกอบด้วยบริการ 3 ส่วน คือ 1.ธุรกิจเบเกอรี ภายใต้ชื่อ Puff & Pie 2.ภัตตาคารการบินไทย ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในท่าอากาศยาน ประกอบด้วย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และกระบี่ และ 3.ธุรกิจบริการจัดเลี้ยง โดยธุรกิจทั้ง 2 ส่วนนี้ สร้างรายได้ให้ฝ่ายครัวการบินเฉลี่ยปีละกว่า 6 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ครัวการบินอยู่ระหว่างปรับปรุงการให้บริการ On Ground ทั้ง 3 ส่วน เพื่อสร้างรายได้และผลกำไรเพิ่มขึ้น โดยรายได้จากบริการส่วนนี้ต้องมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 50% เพราะเป้าหมายหลักใน 5 ปีนับจากนี้คือ การนำธุรกิจ On Ground แยกออกจากหน่วยธุรกิจครัวการบิน เพื่อมาจดทะเบียนและระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในอนาคตด้วย
สำหรับแนวทางการขยายธุรกิจการบินไปยังต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศลาว พม่า และเนปาล เพื่อจัดตั้งครัวการบินในประเทศเหล่านี้ เพราะครัวการบินมีความพร้อมทั้งในด้านประสบการณ์ และเทคโนโลยี ซึ่งการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ยังเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ครัวการบินตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้ 6,587 ล้านบาท และมีกำไร 650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ซึ่งมีรายได้ 6,294 ล้านบาท และมีกำไร 638 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2554 มีรายได้ 6,030 ล้านบาท และมีกำไร 472 ล้านบาท โดยสาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นผลจากการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
