หุ้นไทยปิดลบ 22 จุด โบรกฯ คาดนักลงทุนยังหวั่นความร้อนแรงการเมือง วอลุ่มเทรดเบาบางเพียง 29,280.10 ล้านบาท เหตุกลัวเกิดสถานการณ์รุนแรงบานปลาย อีกทั้งค่าเงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่า ทำตลาดหุ้นนิกเกอิปรับตัวร่วงลงมาแรงถึง 3.32%
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (29 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 1,454.28 จุด ปรับตัวลดลง 22.43 จุด หรือ -1.52% มูลค่าการซื้อขาย 29,280.10 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,462.97 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,451.77 จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์ฯ ร่วงลงแรง เกิดจากเงินเยนแข็งค่า ฉุดตลาดหุ้นร่วงทั้งภูมิภาค และนักลงทุนไทยวิตกกังวลเหตุการณ์รุนแรงจากการเร่งยื่น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทันทีที่เปิดประชุมสภา
โดยหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 168 หลักทรัพย์ ลดลง 517 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 128 หลักทรัพย์ การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 158.92 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,474.74 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 2,951.52 ล้านบาท และสถาบันในประเทศขายสุทธิ 317.86 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ KTB ปิดที่ 17.80 บาท ลดลง-0.70 บาท หรือ -3.78% มูลค่าการซื้อขาย 1,882,287 ล้านบาท TRUE ปิดที่ 8.40 บาท ลดลง -0.50 บาท หรือ -5.62% มูลค่าการซื้อขาย 1,511,02 ล้านบาท INTUCH ปิดที่ 89.75 บาท ลดลง -1.50 บาท หรือ -1.64% มูลค่าการซื้อขาย 1,382,399 ล้านบาท JAS ปิดที่ 8.45 บาท ลดลง -0.05 บาท หรือ -0.59% มูลค่าการซื้อขาย 1,196,299 ล้านบาท BAY ปิดที่ 37.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,009,802 ล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส หรือ ASP กล่าวว่า สรุปภาวะหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวดิ่งลงแรงจากหลายปัจจัยความกังวลจากตลาด โดยรวมของตลาดในภูมิภาคเอเชีย โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์นิกเกอิ ปรับตัวร่วงลงมาค่อนข้างแรงถึง 3.32% จากความกังวลค่าเงินเย็นที่แข็งตัวขึ้น จึงทำให้เกิดแรงฉุดต่อตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคร่วงลงตามไป 1.6%-1.7% และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด และการประชุมของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ซึ่งยังไม่มีน้ำหนักในเรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน หรือส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยขณะนี้เท่าไหร่นัก อาจมีแค่ในประเทศสหรัฐฯ หรือภูมิภาคยุโรปมากกว่า
ส่วนอีกประการหนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยดีดกลับขึ้นมาค่อนข้างแรง ประมาณ 25 จุด ทำให้เกิดการพักฐาน และประเด็นที่น่าจับตามองและเน้นหนักที่สุดคือป ระเด็นร้อนแรงด้านการเมืองที่เริ่มมีการนัดชุมนุมกันบ้างแล้ว ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เกิดความกลัว และไม่มั่นใจในเสถียรภาพความมั่นคง เนื่องจากมีทั้งฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายค้าน จึงไม่อาจคาดเดาเหตุการณ์ในสภา และนอกสภาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง จึงต้องระวังตัวไว้ก่อน
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ (30 ก.ค.) ตลาดยังคงผันผวนจากข่าวการเมืองในประเทศอยู่ค่อนข้างมาก โดยกรอบการเคลื่อนใหวคาดว่าจะดัชนีแนวรับจะอยู่ที่ 1,450 จุด และดัชนีแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,480 จุด นักลงทุนที่เก็งกำไรในระยะสั้น จะมีความเสี่ยงที่จะติดรอบมีมากพอสมควร แต่ถ้าหากดัชนีต่ำลงมากว่า 1,450 จุด ถือว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าทยอยซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานดีเก็บเข้าพอร์ต โดยกลุ่มที่ยังคงมีความโดดเด่นได้แก่กลุ่ม ICT, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์