xs
xsm
sm
md
lg

ปริญสิริแตกไลน์ธุรกิจทุ่มพันล้านผุด “เพลินนารี่ มอลล์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พัชรี โกวิทจินดาชัย
“ปริญสิริ” แตกไลน์ธุรกิจ เปิดบริษัทลูกผุด “เพลินนารี่” ชอปปิ้งมอลล์ย่านวัชรพล ขนาด 28,000 ตร.ม. บนเนื้อที่กว่า 19 ไร่ มูลค่าลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างรายได้ 300 ล้านบาท/ปี

น.ส.พัชรี โกวิทจินดาชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพลินนารี่ มอลล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN กล่าวว่า ที่ผ่านมา ปริญสิริได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในย่านวัชพลเกือบ 100 ไร่ รวม 4 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 1 โครงการ ทาวน์โฮม 3 โครงการ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี

จากการสำรวจตลาดในย่านวัชรพลในรัศมี 5 กิโลเมตร พบว่า เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงสุด ทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อถนนหลายเส้นทาง แวดล้อมด้วยโครงการที่อยู่อาศัยกว่า 20,000 ยูนิต อาคารพาณิชย์กว่า 500 ยูนิต จำนวนประชากรกว่า 100,000 คน แต่ในซอยวัชพลยังไม่มีแหล่งชอปปิ้งที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครบวงจร

ด้วยศักยภาพดังกล่าว ประกอบกับปริญสิริมีที่ดินที่มีศักยภาพมากติดถนนวัชรพลซึ่งเป็นแปลงเดียวกับที่ปริญสิริได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยมาแล้ว 4 โครงการ ทำเลดังกล่าวแวดล้อมด้วยโครงการคอนโดฯ กว่า 28 อาคาร มีผู้อยู่อาศัยกว่า 10,000 คน จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาชอปปิ้งมอลล์ขึ้น

โดยจัดตั้งบริษัทลูก เพลินนารี่ มอลล์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 1 ล้านบาท ถือหุ้นโดยปริญสิริ 97% อีก 3% เป็นทุนส่วนตัว ทำการเช่าที่ดินขนาด 19 ไร่ ของปริญสิริ ระยะเวลา 30 ปี อัตราค่าเช่าเฉลี่ยปีละ 1 ล้านบาท โครงการดังกล่าวจะพัฒนาในรูปแบบของชอปปิ้งมอลล์แนวคิดสวนสนุกแห่งแรกแห่งใหม่ในเมืองไทย ที่ใหญ่ที่สุดต้นถนนวัชรพล ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Amusement Experience Shopping Mall”

เพลินนารี่ มอลล์ เป็นอาคารติดแอร์ 2 ชั้น ขนาด 28,000 ตารางเมตร ตกแต่งบริเวณอาคารทั้งภายใน และภายนอกด้วย Plearn Bear Family สัญลักษณ์และตัวแทนแห่งความรัก ความอบอุ่น ของคนทุกเพศทุกวัย พร้อมลานกิจกรรม และสวนสนุกในร่มขนาดใหญ่ Plearnary Courtyard กว้างกว่า 3,000 ตารางเมตร เพิ่มความพิเศษสำหรับกิจกรรมสนุกๆ ของเด็กๆ ด้วยสวนสนุกติดแอร์ Plearnary Playroom ขนาดเกือบ 1,000 ตารางเมตร พรั่งพร้อมไปด้วยร้านค้า และบริการต่างๆ กว่า 300 ร้านค้า เพื่อความสนุกทุกวันอย่างไร้ขีดจำกัด ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 400-2,000 บาท/ตารางเมตร/เดือน โดยเน้นโซนอาหาร ประมาณ 50% ที่เหลือเป็นโซนอื่นๆ เพื่อตอบรับครบทุกความต้องการ และไลฟ์สไตล์

ภายในโครงการจะประกอบด้วยโซนร้านอาหาร (Plearn Dinning) โซนฟู้ดคอร์ท และ Take Home (Plearn Food) โซนแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย (Plearn Style) โซนคลินิก และบริการเสริมความงาม (Plearn Beauty) โซนการศึกษาเสริมทักษะสำหรับเด็กๆ (Plearn Learning) โซนสินค้าไอที (Plearn Gadget) โซนธนาคาร และเพย์พอยนต์ (Plearn Cash) และซูเปอร์มาร์เกต
เพลินนารี่ มอลล์
ขณะนี้มีผู้สนใจ และมีธุรกิจที่ตกลงมาเปิดให้บริการแล้วกว่า 40% เช่น ท้อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, เคเอฟซี, สตาร์บัคส์, สเวนเซ่นส์, ชาบูชิ, คาสะ (Kasa), โตไก (Tokhai), วีรสุ คอนเนค แอนด์ วิสต้าคาเฟ่, บู๊ทส์, ทอมส์ เลย์ คัท, บางหวาน, ออริกาโน, อีทเทอรี่, คาร์มาร์ท ฯลฯ พร้อมที่จอดรถรอบอาคาร และชั้นใต้ดินรวมกว่า 700 คัน สามารถรองรับกลุ่มเป้าหมายได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งเป้าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 8,000-10,000 คน คาดว่าจะมีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ในปีแรกประมาณ 300 ล้านบาท และสามารถคืนทุนภายในระยะเวลา 7 ปี

ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดในช่วงแรกนั้น จะใช้สื่อออนไลน์ และโซเชียลมีเดียเป็นหลัก เช่น Facebook, Instagram, แบนเนอร์บนเว็บไซต์ต่างๆ ฯลฯ โดยช่วงที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการจะเป็นการสื่อสารผ่านแมสมีเดียอย่างรายการโทรทัศน์ประเภทท่องเที่ยว อาหาร เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นบรรยากาศโดยรวม พร้อมกันนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาสนุกเพลิดเพลินทุกวัน โดย เพลินนารี่ มอลล์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตอกเสาเข็ม และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างชั้น 1 ในเดือนสิงหาคมนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการประมาณเดือนพฤษภาคม 2557

อย่างไรก็ตาม หากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ บริษัทฯ ก็มีแผนที่จะพัฒนาในทำเลอื่นอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะเป็นทำเลไหนคงต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมูล หรืออาจจะเป็นการซื้อที่ดินในมหาวิทยาลัยใน กทม. หรือต่างจังหวัด ที่มีดีมานด์ในระยะยาว รวมไปถึงในอนาคตสนใจที่จะนำชอปปิ้งมอลล์เข้ากองทุนรวมอสังหาฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น