“โต้ง” เซ็นแบ่งงาน 2 รมช.คลัง แต่งตั้ง “เบญจา” ลุยปราบโกงภาษี พร้อมไล่บี้เบิกจ่ายโครงการ “เมกะโปรเจกต์” และแผนก่อหนี้ก้อนใหญ่ ทั้งการกู้จาก พ.ร.ก. กู้เงินเพื่อบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขณะที่ “ทนุศักดิ์” นั่งคุมถังเงินแบงก์รัฐ
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เซ็นแบ่งงานภายในกระทรวงการคลัง เรียบร้อยแล้ว โดยตนเองจะดูแลสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กรมธนารักษ์ และธนาคารออมสิน ขณะเดียวกัน ได้ให้นางเบญจา หลุญเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ดูแลกรมสรรพากร กรมศุลกากร กรมบัญชีกลาง สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และธนาคารกรุงไทย
ทั้งนี้ การแบ่งงานให้ นางเบญจา เข้ามาดูแลกรมสรรพากร และกรมศุลกากร เพื่อต้องการให้เข้ามาเร่งสะสางการทุจริตการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร ที่มีทั้งคนนอก และคนในเข้าไปเกี่ยวข้อง อีกทั้งความเสียหายได้ขยายไปหลายพื้นที่ภาษี จากเดิมมีแค่เขตบางรัก แต่ภายหลังพบว่ามีการขอคืนภาษีปลอมในเขตสมุทรปราการ และนนทบุรี ทำให้ประเทศเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 4 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ยังต้องการให้ นางเบญจา เข้ามาดูแลการเบิกจ่ายให้รวดเร็ว รวมถึงการก่อหนี้ของประเทศที่มีแผนการกู้เงินจำนวนมาก ทั้งการกู้จาก พ.ร.ก. กู้เงินเพื่อบริหารจัดการน้ำ วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท และการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา
ส่วนนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รายงานข่าวระบุว่า ได้รับมอบหมายให้ดูแลกรมสรรพสามิต และธนาคารรัฐเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำของรัฐบาล รวมถึงธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) บรรษัทประกันสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่นายทนุศักดิ์ กำกับดูแลเดิมอยู่แล้ว
นางเบญจา ยอมรับว่า เมื่อได้รับคำสั่งแบ่งงานอย่างเป็นทางการแล้ว จะเรียกหน่วยงานต่างๆ มาหารือเกี่ยวกับการทำงาน ในส่วนปัญหาของการขอคืนภาษีปลอมขณะที่มีข้อมูลมากที่จะดำเนินการให้ถูกต้องอยู่แล้ว