“แสนสิริ” ทุบสถิติยอดขาย 6 เดือนแรก ทะลุ 2.9 หมื่นล้าน ฟุ้งแบล็กลอคตุนในมือแล้ว 6.3 หมื่นล้าน ทยอยรับรู้ภายใน 4 ปี เปิดแผนครึ่งปีหลังลงทุนเปิด 23 โครงการใหม่ ค่า 2.6 หมื่นล้านบาท ชู “ดีคอนโด” บุกตลาดต่างจังหวัด เปิดตัว 6 โครงการรวดเดือนสิงหาคมนี้
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึงสรุปผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 ว่า บริษัทสามารถสร้างยอดขาย (พรีเซล) ได้ 29,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ที่สูงที่สุดตั้งแต่บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจ หรือคิดเป็นกว่า 60% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 48,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขายในช่วงครึ่งปีแรกที่ 20,600 ล้านบาท จากการเปิด 27 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 38,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยในช่วงไตรมาสแรก มูลค่ารวมกว่า 21,000 ล้านบาท รวมทั้งยอดขายในช่วงไตรมาส 2 ที่สามารถปิดการขายได้ประมาณ 8,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ 63,000 ล้านบาท สามารถรองรับการรับรู้รายได้ไปอีก 4 ปีข้างหน้า รวมทั้งบริษัทยังมีความมั่นใจกับเป้าหมายการรับรู้รายได้ในปีนี้ที่ตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมีสัดส่วนการรับรู้รายได้ไปแล้วประมาณ 30% ส่วนอีก 70% จะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง และบริษัทยังมีกำหนดการโอนส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียมอีกกว่า 11 โครงการ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 บริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ อีกประมาณ 23 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 26,000 ล้านบาท โดยบริษัทได้วางแผนรุกธุรกิจในตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อขยายฐานในตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แบรนด์ “ดีคอนโด” เป็นหัวหอก ซึ่งบริษัทเตรียมเปิด 6 โครงการ มูลค่ารวม 6,400 ล้านบาท ใน 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ บางแสน หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยจะเปิดตัวพร้อมกันในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทคาดว่าจะยังคงเติบโตได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจ โดยเงินบาทที่อ่อนตัวลงนั้นจะทำให้ภาคการส่งออกสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์เอง ยังคงมีปัญหาเรื่องแรงงานตึงตัวเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงกดดันอยู่ และอาจทำให้ไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ซื้อบ้านได้ทันตามกำหนดเวลา
“ในส่วนของบริษัทนั้นยอมรับว่า ได้รับผลกระทบจากในเรื่องดังกล่าวบ้างเช่นกัน อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทก็ยังคงสามารถบริหารจัดการการก่อสร้างได้ตามแผนที่วางไว้ โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้มีการส่งมอบโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 17 โครงการ มูลค่า 6,500 ล้านบาท ซึ่งการโอนกรรมสิทธิ์ก็ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดคอนโดมิเนียมระดับล่าง ซึ่งหลายฝ่ายมีความเห็นว่า เป็นตลาดที่มีการเก็งกำไรสูง เนื่องจากที่ผ่านมา ลูกค้าของแสนสิริในตลาดนี้ มีการโอนกรรมสิทธิ์ และย้ายเข้าอยู่อย่างรวดเร็ว โดยมียอดเข้าอยู่ถึงกว่า 80-90% ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่โอนกรรมสิทธิ์” นายเศรษฐากล่าว