“แสนสิริ” แจงไตรมาสแรกปิดยอดขายกว่า 21,000 ล้านบาท หลังปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมต่างจังหวัดเกือบ 100% ในทุกโครงการที่เปิดใหม่ ล่าสุด ประกาศปิดการขายดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท รังสิต 837 ยูนิต มูลค่า 1,313 ล้านบาท เผยแผนไตรมาส 2 เดินหน้าเจาะกลุ่มลูกค้า niche market เล็งผุดบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ภายใต้แบรนด์ “นาราสิริ” พร้อมลุยเจาะกลุ่มบ้าน 3 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 1.5 ล้านบาท ในทำเลที่ใกล้แหล่งงาน
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า ผลการดำเนินธุรกิจไตรมาสแรกของปี 2556 สามารถปิดการขายแล้ว 21,000 ล้านบาท สูงเกินกว่าไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขาย 16,245 ล้านบาท สำหรับความสำเร็จของยอดขายในไตรมาสแรก เป็นผลจากการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายใน 6 กุญแจสำคัญที่วางไว้ในช่วงต้นปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการขยายการลงทุนในการพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ ตอบรับทุกความต้องการที่อยู่อาศัย ครอบคลุมกลุ่มลูกค้า ซึ่งรวมถึงกลุ่มลูกค้าในตลาดต่างจังหวัดให้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ในด้านการจับตลาด niche market ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีความเฉพาะตัวเพิ่มมากขึ้น เพื่อฉีกหนีจากการแข่งขันในตลาดเดิมๆ ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ล่าสุด สามารถปิดการขายคอนโดมิเนียมแบรนด์ ดีคอนโด ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘dcondo campus series’ได้เพิ่มเติมอีก 1 โครงการ ได้แก่โครงการ ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท รังสิต ซึ่งมีจำนวนถึง 837 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,313 ล้านบาท หลังจากปิดการขาย ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท ราชพฤกษ์-จรัญฯ 13
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ บริษัทยังจะให้นำหนักในการเพิ่มสัดส่วนการตลาดในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โดยการกลับมารุกตลาดโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ ภายใต้แบรนด์ “นาราสิริ” เพื่อให้ครอบคลุมตลาดทุกเซกเมนต์ โดยมีแผนการพัฒนาบ้านเดี่ยวราคา 3 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ ราคา 1.5 ล้านบาท ในทำเลที่ใกล้แหล่งงาน เช่น นิคมอุตสาหกรรมในทำเลปทุมธานี และวงแหวนกาญจนาภิเษก หรืออยู่ใกล้แหล่งเมืองเก่า เช่น ประชาอุทิศ หรือสำโรง เป็นต้น
“คาดว่าจะเปิดตัว และเปิดการขาย รวมถึงเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในช่วงประมาณไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และการเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการด้วยระบบพรีคาสให้มากยิ่งขึ้น โดยในช่วงกลางปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตสำหรับการพัฒนาโครงการแนวสูง โดยเฉพาะแบรนด์ ดีคอนโด ภายใต้กำลังการผลิตที่ 42,000 ตารางเมตร/ปี หรือคิดเป็นประมาณ 10 ตึก/ปี รวมถึงโครงการทาวน์เฮาส์ ภายใต้แบรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้อีกด้วย เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ในปีนี้ 48,000 ล้านบาท”
