กสิกรไทย จับมือ บสย.-สมาคมธุรกิจแฟรนไชส์ จัดงาน K SME Franchise หนุนผู้ประกอบการรายใหม่สู่ธุรกิจแฟรนไชส์ หนุนเงินกู้สูงสุดถึง 2 ล้านบาท ลดดอกเบี้ย 1% ตั้งแต่ 8-11 ก.ค.นี้ พร้อมประเมินสถานการณ์ครึ่งปีหลัง มั่นใจเอสเอ็มอีแกร่งปรับตัวได้ คาดสินเชื่อเติบโตตามเป้า 10-11%
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK) กล่าวว่า ธนาคารได้ร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) และสมาคมธุรกิจแฟรนไชส์ และไลเซนส์ จัดงาน K SME Franchise เปิดง่าย ขายคล่อง ตั้งแต่วันที่ 8-11 กรกฎาคม 2556 ณ K SME Knowledge Center อาคารจามจุรีสแควร์ ให้ผู้ประกอบการรายใหม่ที่สนใจซื้อสิทธิธุรกิจแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชซี ได้พบปะและปรึกษาการทำธุรกิจกับผู้ขายสิทธิแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชซอร์ชั้นนำ และรับสิทธิประโยชน์ทั้งด้านเงินทุนและองค์ความรู้ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของธนาคารที่ต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายใหม่ดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง
โดยในด้านของเงินทุนผู้ประกอบการใหม่เพื่อธุรกิจแฟรนไชส์ สามารถขอสินเชื่อจากธนาคาร โดยมี บสย. เป็นผู้ค้ำประกัน วงเงินสินเชื่อสูงสุด 2 ล้านบาท ซึ่งผู้กู้ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ เพียงได้รับสิทธิบริหารจากผู้ขายสิทธิแฟรนไชส์ที่ผ่านหลักเกณฑ์ของโครงการ K SME Franchise Credit ของธนาคารกสิกรไทย และของ บสย.แล้วเท่านั้น และผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนร่วมงานจะได้รับทันทีสิทธิส่วนลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1% เพื่อใช้เป็นสิทธิพิเศษเมื่อสมัครขอสินเชื่อภายในงานอีกด้วย ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายมีผู้สนใจขอสินเชื่อภายในงาน 100 ราย คิดเป็นวงเงิน 80 ล้านบาท
“ในส่วนแคมเปญนี้ ธนาคารไม่ได้หวังผลในเชิงตัวเลขมากนัก แต่ต้องการให้โอกาสแก่ผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก และการสนับสนุนให้ทำธุรกิจแฟรนไชส์ก็เพราะกลุ่มมีโอกาสรอดสูง จากการสำรวจผู้ประกอบการที่เริ่มด้วยธุรกิจแฟรนไชส์จะรอดกว่า 90% ขณะที่เริ่มต้นกิจการใหม่ด้วยตัวเองจะรอดประมาณ 50% เท่านั้น”
ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารมีจำนวนผู้ขายสิทธิแฟรนไชน์ที่เข้าร่วมโครงการ K SME Franchise Credit จำนวน 67 แฟรนไชส์ และมียอดขอสินเชื่อจากผู้สนใจทำธุรกิจ หรือแฟรนไชซี จำนวน 870 ล้านบาท โดยเป็นยอดสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติไปแล้ว จำนวน 826 ล้านบาท คิดเป็นแฟรนไชซีจำนวน 341 ราย จากเป้าหมายวงเงินสินเชื่อ K SME Franchise Credit จำนวน 1,800 ล้านบาท นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2556 เป็นต้นมา ธนาคารได้มีการจัดตั้งทีมธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งเป็นทีมพิเศษที่ให้ข้อมูลการดำเนินการด้านสินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์โดยเฉพาะ เป็นลักษณะ One Stop Service ดำเนินการสินเชื่อแบบเบ็ดเสร็จทั่วประเทศ
สำหรับในปี 2556 นี้ คาดว่าจะมีผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์มากกว่า 40,000 ราย หรือเติบโตจากปีก่อนกว่า 30% ขณะที่วงเงินสำหรับการลงทุนในการเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์มีจำนวนที่สูงขึ้น มูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 850,000 บาทต่อ 1 สาขาธุรกิจแฟรนไชส์ ขณะที่ธนาคารตั้งเป้าปล่อยกู้กลุ่มธุรกิจเฟรนไชส์ปีนี้ที่ระดับ 700-800 ล้านบาท จากปีก่อนหน้าที่มียอดปล่อยกู้ 628 ล้านบาท
คาดสินเชื่อรวมโตตามเป้า 10-11%
ด้านสินเชื่อเอสเอ็มอีโดยรวมของธนาคารปีนี้ ก็น่าจะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10-11% แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการบางส่วนได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินผันผวน การบริโภคชะลอตัว แต่ยังเชื่อว่าผู้ประกอบการยังแข็งแกร่งพอที่จะรับสภาวการณ์ดังกล่าวได้ หลังจากที่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้สะสมเงินทุนไว้ในระดับหนึ่งแล้ว โดยธนาคารมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อเอสเอ็มอีที่ 3.2% และในส่วนของผู้ประกอบการรายใหม่ 5.97%
นายพัชร กล่าวอีกว่า เรื่องของเป้าหมายสินเชื่อต่างๆ เราคงไม่ได้มองตรงนั้นเป็นจุดสำคัญเพียงอย่างเดียว แต่จะมองที่การตอบสนองความต้องการ และการดูแลลูกค้าอย่างครบถ้วน ทั้งด้านเงินทุน และการช่วยเหลือ รวมถึงการสร้างผลตอบแทนในอัตราที่ผู้ถือหุ้นพอใจด้วย