“วันชัย เหลืองวิริยะ” บิ๊ก AKP คุยรับอานิสงส์กรมโรงงานอุตสาหกรรมใช้มาตรการเข้มงวดให้โรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรมถูกวิธี ส่งผลให้ทั้งจำนวนลูกค้า และกากอุตสาหกรรมเติบโตอย่างชัดเจน เชื่อหนุนรายได้โค้ง 2/56 พุ่งตาม ยืนยันพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง รองรับโอกาสจากการใช้มาตรการที่เข้มงวดของภาครัฐ และความสำเร็จจากการสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง มั่นใจสิ้นปีปั๊มรายได้เติบโต 20-30% ตามเป้า
นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) (AKP) ผู้บริหารศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม) บางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นเตากำจัดกากอุตสาหกรรมอันตรายด้วยวิธีการเผาด้วยความร้อนสูงที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากไตรมาสที่ 1/2556 ที่ผ่านมาพบว่า ทั้งจำนวนลูกค้า และปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เข้าเผาทำลายด้วยเตาความร้อนสูง ที่ศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการมีจำนวน และปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากกรณีที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีนโยบายดำเนินมาตรการเข้มข้นให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศกำจัดกากอุตสาหกรรมตามกระบวนที่ถูกต้อง และร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการกับผู้ลักลอบทิ้งกาก ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ใช้มาตรการเชิงรุก โดยใช้ทีมการตลาดเข้าไปให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการรับรู้ในกลุ่มผู้ประกอบการอย่างกว้างขวาง จึงทำให้มีหลายโรงงานตัดสินใจส่งกากอุตสาหกรรมเข้ามากำจัดกับเตาเผาความร้อนสูงของอัคคีปราการ สะท้อนให้ทั้งปริมาณกากอุตสาหกรรม และจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนดังกล่าว
และหลังจากนี้บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการใช้มาตรการเชิงรุกให้ความรู้แก่ลูกค้า และการเพิ่มจำนวนรถขนส่งเพื่อให้สามารถรองรับกากอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังให้ความร่วมมือกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้าร่วมโครงการยกระดับผู้ประกอบการจัดการของเสียอุตสาหกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศว่าจะได้รับบริการที่ได้มาตรฐาน และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด
“การที่กรมโรงงานได้ออกมาแสดงเจตนาชัดเจนที่จะให้โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศกำจัดกากอุตสาหกรรมด้วยกระบวนการที่ถูกต้อง เพื่อลดปัญหากากอุตสาหกรรมส่งผลกระทบต่อชุมชน และสภาพแวดล้อม รวมทั้งเพื่อแก้ปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ถือว่าเป็นผลดีทั้งต่อสภาพแวดล้อมของประเทศ และสุขภาพของประชาชน ซึ่งอัคคีปราการ ในฐานะผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ยินดีให้การสนับสนุน และพร้อมดำเนินการตามนโยบายของกรมโรงงานอย่างเต็มความสามารถ และยอมรับว่า มาตรการดังกล่าวได้ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ เพราะจะทำให้โรงงานอุตสาหกรรมหันมากำจัดกากอุตสาหกรรมด้วยกระบวนการที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น ถือเป็นการเพิ่มจำนวนลูกค้าด้วยอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากที่บริษัทฯ ได้นโยบายเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา” นายวันชัยกล่าว
ทั้งนี้ จากมาตรการคุมเข้มการจำกัดกากอุตสาหกรรมของภาครัฐ และการใช้นโยบายเชิงรุกอย่างต่อเนื่องของอัคคีปราการ ประกอบกับปริมาณกากอุตสาหกรรมอันตรายยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีในอัตราร้อยละ 10-15 เชื่อว่า บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่เป็นเตาเผาทำลายกากอุตสาหกรรมแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ จะได้รับผลดีจากมาตรการดังกล่าวโดยตรง ประกอบกับบริษัทฯ ยังจะมีแผนที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มจากกระบวนการเผาทำลายกากอุตสาหกรรมด้วย เช่น การนำความร้อนที่เหลือทิ้งจากการเผาทำลายแปรรูปกลับมาเป็นพลังงานทดแทนได้อีก ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะสะท้อนให้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2556 และในปี 2556 เติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ โดยได้วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ร้อยละ 20-30 จากรายได้ในปี 2555