ธปท. เผย ศก.เดือน เม.ย.ชะลอตัวตามการใช้จ่ายภาคเอกชน โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัว 1.1% จากระยะเดียวกันของปีก่อน พร้อมทบทวนจีดีพี ปี 56 ก.ค.นี้
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจเดือนเมษายน 2556 ชะลอลง แต่จากแรงส่งทางด้านเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ร้อยละ 0.25 เหลือร้อยละ 2.50 ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี และการกระตุ้นจากนโยบายภาครัฐ เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 จะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ธปท.จะพิจารณาเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้อีกครั้งเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการปรับลดลงหรือไม่ ทั้งนี้ ธปท.คาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยปี 2556 น่าจะโตร้อยละ 5.1 ส่วนปี 2557 คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 5
ส่วนสัญญาณเงินทุนไหลเข้านั้น เดือนพฤษภาคม เริ่มเห็นสัญญาณลดลงจากเดือนเมษายนที่มีเงินไหลเข้าอยู่ที่ 4,166 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น จึงไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงหรือไม่
ทั้งนี้ เศรษฐกิจเดือนเมษายน 2556 ชะลอตัวลงตามการใช้จ่ายภาคเอกชน โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 1.1 จากระยะเดียวกันของปีก่อน ตามการลงทุนในเครื่องจักร และอุปกรณ์หลังจากที่เร่งไปมากในปีก่อน รวมทั้งเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ผลิตเพื่อส่งออกบางส่วนชะลอการลงทุน
ขณะที่ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 1.7 ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนตามการใช้จ่ายในหมวดยานยนต์ที่ชะลอลง ส่วนรายได้เกษตรกรที่หดตัวร้อยละ 7.7 จากระยะเดียวกันของปีก่อน แต่ในส่วนของสินค้าที่อุปโภคบริโภคยังขยายตัวตามปกติ และในระยะยาวผู้ประกอบการยังเชื่อมั่น และพร้อมใช้จ่ายอยู่ รวมทั้งยังคงแผนการลงทุนตามที่วางไว้ ส่วนดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวร้อยละ 3.8 จากการลดระดับการผลิตในบางอุตสาหกรรมเพื่อลดการใช้พลังงานชั่วคราวในต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในบางอุตสาหกรรม และการส่งออกที่ฟื้นตัวช้า
ด้านการส่งออกสินค้ามีมูลค่าอยู่ที่ 17,251 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัวร้อยละ 3.7 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ผู้ประกอบการส่งออกเชื่อว่าแม้ไตรมาส 1 จะชะลอตัว แต่ไตรมาส 2 จะดีขึ้นได้ ส่วนราคาสินค้าเกษตรหดตัวตามราคายางพาราที่คำสั่งซื้อชะลอลง เนื่องจากจีนยังมีสต๊อกอยู่ในระดับสูง และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานปีที่ผ่านมาสูง ด้านการท่องเที่ยวขยายตัวดีต่อเนื่อง มีจำนวนมากถึง 2.1 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 21.6 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และรัสเซีย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 2.42 จากการชะลอลงราคาพลังงาน