“วี จี ไอ โกลบอล” เริ่มนำข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap Indices ตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป เชื่อทำให้ชื่อเสียงบริษัทฯ เป็นที่รู้จักของนักลงทุนต่างชาติ และได้รับการยอมรับระดับโลก “มารุต” ระบุเข้า MSCI ไม่ง่ายต้องมีปริมาณเทรดต่อวันที่เข้าเกณฑ์ จึงขอขอบคุณนักลงทุนที่ไว้ใจเทรดหุ้น VGI กันคึกคักจนได้เข้าใน MSCI อินเด็กซ์ ย้ำเดินหน้าสร้างผลการดำเนินงานงวดปี 56/57 เติบโตตามเป้า 30%
นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผยว่า วันที่ 1 มิ.ย.56 หุ้นของบริษัทฯ จะถูกนำเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap Indices เป็นวันแรก ซึ่งนับว่าเป็นความภาคภูมิใจของทั้งผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 11 ตุลาคม 2555 ซึ่งหากนับระยะเวลาก็เพียง 8 เดือนเท่านั้น
“บริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะ VGI ถือว่าเป็นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เข้าซื้อขายไม่ถึงปี แล้วได้รับการคัดเลือกจาก MSCI ซึ่งเป็นดัชนีในระดับโลกที่นักลงทุนสถาบันทั่วโลกต้องติดตาม MSCI จะเลือกเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง มีสภาพคล่องเข้าเกณฑ์ที่กำหนด และยังต้องมีปริมาณการเทรดหุ้นต่อวันมากพอจึงจะได้รับคัดเลือกเข้าไปคำนวณในดัชนีได้ จึงภูมิใจ และอยากขอขอบคุณนักลงทุนที่มั่นใจเข้ามาเทรดหุ้น VGI เป็นปริมาณมากในทุกๆ วัน เชื่อว่าหลังจากนี้ ชื่อเสียงของบริษัทฯ จะเป็นที่รู้จักของนักลงทุนต่างชาติมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการที่บริษัทฯ เดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ในต่างประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่แล้ว” นายมารุตกล่าว
สำหรับปีนี้ บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนไว้ จำนวน 260 ล้านบาท ในการปรับเปลี่ยนสื่อมัลติมีเดียบนสถานีรถไฟฟ้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และอยู่ในตำแหน่งที่เห็นชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเมื่อติดตั้งเสร็จบริษัทจะมีการปรับแพกเกจสื่อดิจิตอลใหม่ เพื่อเน้นพลังการสื่อสารการตลาดให้ตรงไปยังกลุ่มผู้ชมสื่อที่ชัดเจนมากขึ้น ด้านสื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรดของบริษัทฯ ยังมีพื้นที่ในการพัฒนาได้อีกมาก ขณะที่สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานเมื่อเร็วๆ นี้ได้ลงนามสัญญาติดตั้ง และบริหารจัดการสื่อเพิ่มเติมแล้วใน 12 อาคาร ทำให้เครือข่าย 51 อาคาร จะขยายเป็น 63 อาคาร ส่วนธุรกิจสื่ออื่นๆ ขณะนี้บริษัทได้เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในการขายสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ (Airport Link) และเป็นตัวแทนขายสื่อโฆษณาบนจอ Outdoor LED ตามสี่แยกสำคัญๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวม 10 แห่ง โดยรวมแล้วบริษัทฯ มีเครือข่ายสื่อดิจิตอลทั้งบนบีทีเอส โมเดิร์นเทรด อาคารสำนักงาน และ LED Outdoor ซึ่งทั้งหมดบริหารควบคุมสื่อได้จากระบบส่วนกลางของบริษัทฯ
“ช่วงไตรมาส 2 ของบริษัทฯ บีทีเอสจะเพิ่มตู้รถไฟฟ้า 35 ขบวน ขณะที่การปรับเปลี่ยนสื่อมัลติมีเดียบนสถานีบีทีเอสจะแล้วเสร็จ ประกอบกับการเพิ่มประสิทธิภาพทีมสื่อโมเดิร์นเทรด และยังได้ขยายเครือข่ายอาคารสำนักงานเพิ่มเติม ทำให้เชื่อว่าเป้าหมายการเติบโตที่ 30% จะเป็นไปตามที่วางแผนไว้” นายมารุตกล่าว
นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เปิดเผยว่า วันที่ 1 มิ.ย.56 หุ้นของบริษัทฯ จะถูกนำเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap Indices เป็นวันแรก ซึ่งนับว่าเป็นความภาคภูมิใจของทั้งผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 11 ตุลาคม 2555 ซึ่งหากนับระยะเวลาก็เพียง 8 เดือนเท่านั้น
“บริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะ VGI ถือว่าเป็นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เข้าซื้อขายไม่ถึงปี แล้วได้รับการคัดเลือกจาก MSCI ซึ่งเป็นดัชนีในระดับโลกที่นักลงทุนสถาบันทั่วโลกต้องติดตาม MSCI จะเลือกเฉพาะหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง มีสภาพคล่องเข้าเกณฑ์ที่กำหนด และยังต้องมีปริมาณการเทรดหุ้นต่อวันมากพอจึงจะได้รับคัดเลือกเข้าไปคำนวณในดัชนีได้ จึงภูมิใจ และอยากขอขอบคุณนักลงทุนที่มั่นใจเข้ามาเทรดหุ้น VGI เป็นปริมาณมากในทุกๆ วัน เชื่อว่าหลังจากนี้ ชื่อเสียงของบริษัทฯ จะเป็นที่รู้จักของนักลงทุนต่างชาติมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการที่บริษัทฯ เดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ในต่างประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่แล้ว” นายมารุตกล่าว
สำหรับปีนี้ บริษัทฯ เตรียมงบลงทุนไว้ จำนวน 260 ล้านบาท ในการปรับเปลี่ยนสื่อมัลติมีเดียบนสถานีรถไฟฟ้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และอยู่ในตำแหน่งที่เห็นชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเมื่อติดตั้งเสร็จบริษัทจะมีการปรับแพกเกจสื่อดิจิตอลใหม่ เพื่อเน้นพลังการสื่อสารการตลาดให้ตรงไปยังกลุ่มผู้ชมสื่อที่ชัดเจนมากขึ้น ด้านสื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรดของบริษัทฯ ยังมีพื้นที่ในการพัฒนาได้อีกมาก ขณะที่สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานเมื่อเร็วๆ นี้ได้ลงนามสัญญาติดตั้ง และบริหารจัดการสื่อเพิ่มเติมแล้วใน 12 อาคาร ทำให้เครือข่าย 51 อาคาร จะขยายเป็น 63 อาคาร ส่วนธุรกิจสื่ออื่นๆ ขณะนี้บริษัทได้เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในการขายสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต ลิงก์ (Airport Link) และเป็นตัวแทนขายสื่อโฆษณาบนจอ Outdoor LED ตามสี่แยกสำคัญๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวม 10 แห่ง โดยรวมแล้วบริษัทฯ มีเครือข่ายสื่อดิจิตอลทั้งบนบีทีเอส โมเดิร์นเทรด อาคารสำนักงาน และ LED Outdoor ซึ่งทั้งหมดบริหารควบคุมสื่อได้จากระบบส่วนกลางของบริษัทฯ
“ช่วงไตรมาส 2 ของบริษัทฯ บีทีเอสจะเพิ่มตู้รถไฟฟ้า 35 ขบวน ขณะที่การปรับเปลี่ยนสื่อมัลติมีเดียบนสถานีบีทีเอสจะแล้วเสร็จ ประกอบกับการเพิ่มประสิทธิภาพทีมสื่อโมเดิร์นเทรด และยังได้ขยายเครือข่ายอาคารสำนักงานเพิ่มเติม ทำให้เชื่อว่าเป้าหมายการเติบโตที่ 30% จะเป็นไปตามที่วางแผนไว้” นายมารุตกล่าว
