อสังหาฯ บางกะปิเจอผังเมืองบีบ “แฮปปี้แลนด์” ชะลอแผนลงทุนคอนโดฯ

ผังเมืองรวม กทม.บีบอสังหาฯ ย่านบางกะปิชะลอขึ้นอาคารชุด เหตุถูกลดประโยชน์การใช้พื้นที่ ผู้บริหารแฮปปี้แลนด์ฯ สั่งชะลอแผนผุดคอนโดฯ ตลาดแฮปปี้แลนด์ รอหลังเปิดใช้รถไฟฟ้าสายใหม่อาจนำมาพัฒนาใหม่ พร้อมเดินหน้าสร้างการรับรู้แบรนด์ “เอชเคป” แจงปี 56 เปิดตัว 2 โครงการใหม่ เอชเคป เรสซิเดนซ์ แอท สยาม พาร์ค บริเวณเสรีไทย 73 รูปแบบบ้านเดี่ยวพรีเมียมราคา 18-25 ล้านบาท มูลค่า 500 ล้านบาท โครงการ เอชเคป บิซ เซ็คเตอร์ อ่อนนุช มูลค่า 770 ล้านบาท

นายชยวีร์ คีตวรนาฏ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท แฮปปี้แลนด์ กรุ๊ป ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ และสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ ย่านบางกะปิ เปิดเผยว่า ภายหลังจากนำที่ดินย่านแฮปปี้แลนด์ทยอยพัฒนาโครงการอาคารพาณิชย์ และทาวน์เฮาส์ ทำให้เหลือที่ดินสะสม (แลนด์แบงก์) ในตลาดแฮปปี้แลนด์ฯ ประมาณ 10 ไร่เศษ ซึ่ง ณ ปัจจุบันที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพสูงมากขึ้น จนสามารถพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมได้ ซึ่งในย่านดังกล่าวมีผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อขายจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กรุงเทพฯ ประกาศใช้ผังเมืองรวมฉบับใหม่ ทำให้การใช้ประโยชน์ในที่ดินย่านดังกล่าวลดลง โดยบริษัทต้องชะลอแผนนำที่ดินสะสมมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่จะทำให้ตลาดในระดับราคาเฉลี่ย 1.5 ล้านบาทออกไปก่อน รอจังหวะการลงทุนของรัฐบาลเพื่อดำเนินการรถไฟฟ้าสายใหม่ ซึ่งจะตัดผ่านในพื้นที่ย่านบางกะปิ และคาดเชื่อว่า หลังเปิดใช้รถไฟฟ้าเส้นทางใหม่แล้ว ผังเมืองฉบับใหม่จะมีการปรับเพิ่มประโยชน์ในการใช้พื้นเพิ่มสูงขึ้น ถึงเวลานั้น แฮปปี้แลนด์ฯ จะนำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาคอนโดมิเนียมราคา 4-5 ล้านบาท อีกครั้งหนึ่ง

“ด้วยนโยบายของแฮปปี้แลนด์ฯ แล้ว ไม่มีแนวคิดจะเข้าสู่ตลาดอาคารชุด แต่ด้วยศักยภาพของที่ดินจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพัฒนาคอนโดฯ เพราะหากพัฒนาโครงการแนวราบก็จะไม่คุ้มค่ากับมูลค่าของที่ดินที่มีอยู่”

สำหรับในปี 2556 มีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเอชเคป เรสซิเดนซ์ แอท สยาม พาร์ค บนพื้นที่ 5 ไร่ เลียบถนนเสรีไทย 73 พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 3-4 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 320-475 ตารางเมตร (ตร.ม.) จำนวน 24 ยูนิต ราคาเริ่ม 18-25 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 500 ล้านบาท และโครงการ เอชเคป บิซ เซ็คเตอร์ อ่อนนุช รูปแบบโฮมออฟฟิศ ขนาด 3.5 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 260-325 ตร.ม. จำนวน 60 ยูนิต บนพื้นที่โครงการ 9 ไร่ ราคาเริ่มต้น 9.7-20 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 770 ล้านบาท ปัจจุบันยูนิตขนาดใหญ่ที่สุดมียอดจองไปแล้ว 1 ยูนิต

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ในตราสินค้า (แบรนด์) และเพื่อให้เกิดการจดจำในตัวแบรนด์ แฮปปี้แลนด์ ทางบริษัทฯ จะเน้นหนักสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา กลุ่มแฮปปี้แลนด์ไม่ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์เลย ทำให้จนถึงปัจจุบันนี้ลูกค้าไม่สามารถจดจำแบรนด์ของบริษัทได้ แม้จะอยู่ในวงการมานาน

“ในปีนี้จะเน้นการสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าภายใต้แบรนด์ เอชเคป แบรนด์ของสินค้ากลุ่มพรีเมียมเป็นหลัก และยังมีแผนแตกแบรนด์ใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดกลาง-บน ราคา 4-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นแบรนด์สำหรับทาวน์เฮาส์ คาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับโครงการใหม่ในปี 57”