“ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น” ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2556 รับอานิสงส์จากการขายเข้ากองทุน WHAPF เมื่อเดือนมกราคม หนุนผลประกอบการดีต่อเนื่อง เตรียมงบประมาณลงทุนกว่า 7,500 ล้านบาท พร้อมขยายธุรกิจอย่างก้าวกระโดด “สมยศ อนันต์ประยูร” ระบุสาเหตุที่บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มเนื่องจากความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้า และศูนยํกระจายสินค้ามีอัตราการเติบโตสูงขึ้น พร้อมลุยเจรจาซื้อที่ดินไตรมาส 2 เพิ่มไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ ดันทั้งปีมีพื้นที่เช่ารวมทั้งหมดเกือบ 1 ล้านตารางเมตร
นายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (มหาชน) หรือ WHA ผู้นำด้าน Built-to-Suit คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมียม เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2556 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 กำไรสุทธิที่สะท้อนถึงกำไรที่แท้จริงจากการขายคลังยา (Health care) อยู่ที่ 565.91 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของงวดปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 240.58% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 2,164.49 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยหากพิจารณางบการเงินรวมของบริษัทฯ กำไรสุทธิที่รายงานอยู่ที่ 122 ล้านบาท แต่เป็นกำไรสุทธิที่มิได้สะท้อนให้เห็นถึงกำไรจากการขายทรัพย์สินเข้ากองทุน WHAPF เนื่องจากบริษัทฯ เคยปรับโครงสร้างการถือหุ้นก่อนการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตามมาตรฐานบัญชีจะต้องบันทึกกำไรจากซื้อกิจการ ซึ่งเสมือนเป็นกำไรจากการตีมูลค่าทรัพย์สินคลังยา (Health Care) ดังกล่าวให้เป็นมูลค่ายุติธรรม ดังนั้น ตามตัวเลขทางบัญชีจึงเสมือนมีการรับรู้กำไรในส่วนนี้ในงบรวมไปแล้ว ซึ่งบริษัทฯ สามารถนำกระแสเงินสดที่ได้จากกำไรจากการขายทรัพย์สินที่แท้จริงจำนวนกว่า 600 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และส่วนหนึ่งจะสำรองสำหรับการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอีกด้วย
ขณะเดียวกัน นอกจากการขายทรัพย์สินเข้า WHAPF เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น และรับรู้รายได้จากการขายซึ่งเข้ามาในไตรมาส 1/2556 ประมาณ 2,046 ล้านบาทนั้น บริษัทฯ ยังมีแผนการที่จะขายทรัพย์สินเพิ่มเติมเข้ากองทุนภายในปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ด้วยมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ โดยบริษัทฯ มีความมั่นใจที่จะขยายพื้นที่เช่ากว่า 500,000 ตารางเมตร เนื่องจากความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้ามีอัตราการเติบโตสูงขึ้น
ส่วนแผนการขยายการลงทุนในไตรมาส 2/2556 นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างแผนการศึกษาในการเข้าเจรจาซื้อที่ดินแถบบริเวณพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาค เช่น ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ บนพื้นที่รวมกว่า 200 ไร่ เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้เช่า โดยยังคงเน้นบริเวณพื้นที่ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านขนส่ง และลอจิสติกส์ ที่จะครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 3/2556 นี้