ผจก.ไอแบงก์ มั่นใจแผนฟื้นฟูจะช่วยให้หนี้เสียของไอแบงก์ในปีนี้ลดลง 6,000 ล้านบาท และคาดว่าจะแก้ปัญหาหนี้เสียทั้งหมดได้ภายใน 3-4 ปี
นายธานินทร์ อังสุวรังษี ผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เปิดเผยว่า ขณะนี้ไอแบงก์ได้ทำการจัดการบริหารหนี้เสียที่มีอยู่ 24,000 ล้านบาท ด้วยการเตรียมเจรจาเซ็นสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) จึงเชื่อว่าจะทำให้หนี้เสียของไอแบงก์ในปีนี้ลดลง 6,000 ล้านบาท และคาดว่าภายใน 3-4 ปี จะสามารถแก้ปัญหาหนี้เสียที่มีอยู่ทั้งหมดได้ ซึ่งในส่วนของการปรับโครงสร้างนั้น ไอแบงก์จะปรับโครงสร้างการทำงานภายใน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมาอีก ด้วยการแยกกลุ่มการทำงานในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ และเน้นการปล่อยสินเชื่อให้แก่รายย่อยมากขึ้น
ขณะที่การปล่อยสินเชื่อรายใหญ่จะมีเงื่อนไขปล่อยให้ไม่เกินรายละ 200 ล้านบาท ทั้งยังมีการจัดตั้งคณะทำงานและที่ปรึกษา และปรับโครงสร้างในระดับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่เป็นแบบสัญญาจ้าง เพื่อเปิดทางให้ผู้ที่มีความสามารถเข้าดูแลการปล่อยสินเชื่อในอนาคตด้วย ซึ่งในขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดทำแผนร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)
ทั้งนี้ ในส่วนของการเพิ่มทุน ได้เสนอแนวทางในการเพิ่มทุนให้แก่กระทรวงการคลังเพื่ออนุมัติ โดยคาดว่าจะเพิ่มทุนได้ทั้งหมดตามแผนภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ไอแบงก์มีประสิทธิภาพ และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอส) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 9 จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 4
สำหรับเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 5 หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท และเงินฝากอยู่ในระดับที่สูงกว่าสินเชื่อร้อยละ 10 ซึ่งในอนาคตจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น หากมีการเพิ่มทุนได้ตามแผน
