xs
xsm
sm
md
lg

“ประสาร” ยันส่งมาตรการดูแลค่าเงินบาทให้คลังแล้ว พ้อมประกาศงดให้สัมภาษณ์สื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้ว่าการ ธปท. เผยส่งมาตรการดูแลค่าเงินบาทให้คลังแล้ว เจ้าตัวฝากบอกงดให้สัมภาษณ์สื่อจนกว่าจะถึงเวลาเหมาะสม ขณะที่ “สภาหอการค้า-สมาคมแบงก์” เตรียมพบผู้ว่าฯ แบงก์ชาติสัปดาห์หน้าเพื่อหารือบาทแข็ง

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า มาตรการต่างๆ ที่ ธปท.ได้เตรียมเอาไว้สำหรับดูแลค่าเงินบาทนั้น ทาง ธปท.ได้ทำเป็นหนังสือส่งไปยังกระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว และช่วงนี้โดยส่วนตัวจะของดให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ภาคเอกชนมองว่ามีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างมาก โดยเฉพาะคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าจากต่างชาติลดลง เพราะผู้ประกอบการไทยไม่สามารถตั้งราคาขายได้ เนื่องจากค่าเงินบาทยังคงผันผวน

นายอิสระ กล่าวว่า เพื่อเป็นการดูแลผู้ประกอบการส่งออก ทางหอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จะไปพบกับผู้ว่าการ ธปท. เพื่อหารือถึงแนวทางในการรับมือค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นสัปดาห์หน้า โดยจะเสนอให้กระทรวงการคลัง และ ธปท.ดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวน และแข็งค่า หรืออ่อนลงไปในทิศทางเดียวกับประเทศในภูมิภาค รวมทั้งดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมด้วย

ขณะเดียวกัน ในการดูแลผู้ประกอบการแต่ละรายต้องมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย (เอสเอ็มอี) ควรให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) จัดสรรวงเงินช่วยเหลือเอสเอ็มอี หรือลดค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้เครื่องมือทางการเงิน รวมทั้งให้รัฐบาลสนับสนุนภาคธุรกิจปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น และส่งเสริมให้ภาคธุรกิจซื้อขายสินค้าระหว่างชายแดนด้วยค่าเงินบาทมากขึ้น

ทั้งนี้ ในการนำเสนอมาตรการต่างๆ ทั้งหมด เป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น หน้าที่ในการใช้มาตรการเป็นของภาครัฐ และ ธปท. มากกว่า รวมถึงเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้วย แต่เป็นเพียงการสอบถามข้อมูลเท่านั้น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้การส่งออกหดตัวลง และเริ่มส่งผลกระทบต่อเอสเอ็มอี และเกษตร รวมทั้งการท่องเที่ยวมากขึ้น

ดังนั้น รัฐบาล และ ธปท.ควรหาแนวทางในการแก้ไข เช่น การเก็บค่าธรรมเนียมเงินลงทุนต่างประเทศระยะสั้นเพื่อสกัดการไหลเข้ามาลงทุนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ย ธปท.จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมว่าควรจะปรับลดหรือไม่

แต่ปัจจุบัน สัญญาณเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ จึงสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ร้อยละ 0.25 แต่จะต้องคำนึงถึงปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย

นอกจากนี้ ยังมองว่าหากค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลุดกรอบ 28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และผันผวน อาจส่งผลให้การส่งออกจะขยายตัวเพียงร้อยละ 3 และทำให้จีดีพีของไทยลดลงเหลือเพียงร้อยละ 4-4.5


กำลังโหลดความคิดเห็น