เอกชนและนักวิชาการแนะรัฐกดดันปลด “ผู้ว่าฯ ธปท.” หวังให้เป็นเพียงข่าวลือ! หลังกระแสข่าวยังมีต่อเนื่อง เหตุไม่ได้แก้ปัญหาให้บาทอ่อนค่าได้ อยากเห็นการทำงานที่ร่วมมือกันเพื่อแก้ไข ไม่อยากซ้ำรอยวิกฤตปี 2540
นายธนิต โสรัตน์ รักษาการประธานและเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กรณีกระแสข่าวที่รัฐบาลจะปลดนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีต่อเนื่อง แม้ว่าฝ่ายบริหารจะมีอำนาจในการปลดได้แต่ก็ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าผู้ว่าฯ ธปท.มีความผิดร้ายแรงเช่นใด และหากปลดไปแล้วจะแก้ไขภาวะค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าได้หรือไม่ หากไม่สามารถตอบคำถามดังกล่าวได้ชัดเจนจะทำให้ถูกมองได้ว่าการเมืองเข้าแทรกแซงความเชื่อมั่นต่อ ธปท.ก็จะหมดลง
“การที่จะปลดผู้ว่าฯ ธปท.จะต้องคำนึงในหลายๆ เรื่อง โดยจะต้องดูว่ามีอำนาจปลดได้หรือไม่และการปลดจากความผิดอะไร ไม่เช่นนั้นจะถูกมองเป็นเรื่องการเมืองเข้าแทรกแซงทันที ความเชื่อมั่นต่อระบบการเงินและการคลังของไทยก็จะลดต่ำลง ซึ่งทุกประเทศที่พัฒนาแล้วจะต้องถ่วงสมดุลระหว่างนโยบายการเงินและการคลัง มีปัญหาอะไรจะต้องรอมชอมกันและหาจุดที่ลงตัวซึ่งเป็นประโยชน์ตอ่ประเทศชาติมากสุด” นายธนิตกล่าว
ทั้งนี้ ไม่ต้องการเห็นการดำเนินการแทรกแซง ธปท.จากฝ่ายการเมืองเนื่องจากตัวอย่างก็มีให้เห็นชัดเจนแล้วในช่วงวิกฤตปี 2540 ที่การเมืองเข้าแทรกแซงส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศเสียหายไปมาก
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า คิดว่าน่าจะเป็นเพียงข่าวลือมากกว่าในขณะนี้แต่ก็ยอมรับว่าข่าวที่ออกมาก็ชี้ให้เห็นถึงสัญญาณการทำงานที่ยังมีมุมมองที่ต่างกัน ดังนั้นจึงต้องการให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาจะเป็นประโยชน์กว่า
“ถ้ามองในเชิงกฎหมายก็ให้อำนาจกระทรวงการคลังในการเสนอปลดผู้ว่าฯ ธปท.แต่จะต้องมีข้อกล่าวหาที่รุนแรงในการจะไปปลด มันจึงอยู่ที่การตีความว่ามีอำนาจแล้วใช้อำนาจถูกต้องหรือไม่ และคำถามคือถ้าปลดแล้วคนที่จะเข้ามาใหม่หากยึดนโยบายเดิมแล้วจะปลดต่อไหม และที่สุดแล้วบาทจะอ่อนค่าลงหรือไม่” นายธนวรรธน์กล่าว
นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ภาคเอกชนไม่อยากให้เรื่องค่าเงินบาทนำมาเป็นประเด็นการเมืองและก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งการเมืองแต่การเสนอมาตรการต่างๆ เป็นเพียงการเสนอความเห็นส่วนจะตัดสินใจอย่างไรก็คงอยู่กับการตัดสินใจของรัฐและธปท. อย่างไรก็ตาม ธปท.เป็นองค์กรอิสระเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถเจรจากันได้
“ที่ทราบมาขณะนี้รัฐบาลและ ธปท.ได้มีการหารือและมีความเข้าใจกันดีขึ้นมากแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ ผมเองก็ไม่ทราบว่ามีเหตุผลอะไรจะไปปลดผู้ว่าฯ ธปท.และการปลดมันทำได้ง่ายนักหรือ เพราะการปลดหมายถึงจะต้องมีความผิดร้ายแรงถึงขั้นทำให้ประเทศชาติเสียหายมาก แต่หากเห็นว่าค่าเงินบาทแข็งค่าแล้วมีผลกระทบจริงก็ควรจะมีมาตรการออกมาดูแล” นายวัลลภกล่าว