สรรพากร ยันไม่เก็บ VAT จากผู้ซื้อทอง แต่เรียกเก็บจากร้านค้าทองเพียงด้านเดียว ชี้การซื้อขายทองเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ใช่ครั้งเดียวเหมือนสินค้าอื่น หากเก็บทุกครั้งอาจกระทบผู้ประกอบการ ต้องเสียภาษีมากจากราคาขายที่เพิ่มขึ้น
นางจิตรมณี สุวรรณพูล ที่ปรึกษากรมสรรพากร กล่าวว่า ปัจจุบันกรมสรรพากรเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากร้านค้าทองเพียงอย่างเดียว โดยให้คิดจากส่วนต่างของราคาทอง หรือกำไรทองที่ร้านค้าทองขายได้ เช่น ร้านค้าซื้อทองมามูลค่า 1 หมื่นบาท และจำหน่ายออกไปได้ 1.5 หมื่นบาท ก็ให้นำส่วนต่าง หรือกำไร 5 พันบาท มาคิดเสียภาษี VAT ให้แก่กรมสรรพากร ไม่ได้เก็บโดยตรงจากผู้มาซื้อทองจากร้านค้าเหมือนสินค้าอื่นๆ
ทั้งนี้ การเก็บภาษี VAT การซื้อขายทองเป็นกรณีพิเศษกว่าสินค้าอื่น เพราะมีการซื้อขายกันตลอดเวลา ไม่ได้ซื้อขายครั้งเดียวเหมือนเสื้อผ้า ซึ่งหากให้มีการเก็บภาษี VAT ซื้อขายทองคำทุกครั้ง ผู้ประกอบการจะมีปัญหาเสียภาษีจำนวนมาก จนมีปัญหาในการดำเนินการ
“แม้ว่าตอนนี้จะมีการเก็งกำไรทองกันมาก แต่กรมสรรพากรคงเข้าไปเก็บภาษี VAT ทุกครั้งที่มีการซื้อขายจากราคาที่ดำเนินการจริงไม่ได้ เพราะจะทำให้เป็นภาระแก่ผู้ประกอบการ และผู้ซื้อเพิ่ม และอาจส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นอีกเพราะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น”
นางจิตรมณี กล่าวว่า การเก็บภาษี VAT ทองในปัจจุบันมีการดำเนินการมานานแล้ว และไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะสินค้าบางรายการก็ไม่เก็บภาษี VAT เช่น ผัก ผลไม้ อาหารสด นอกจากนี้ ยังมีการบริการที่ไม่เก็บภาษี VAT เช่นกัน เช่น สถานพยาบาล และโรงเรียน