นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า อยู่ที่ร้อยละ 2.74 เนื่องจากราคาสินค้าเกษตร ผัก ผลไม้ และปลา มีราคาสูงขึ้น รวมถึงค่าโดยสารรถไฟฟ้า
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อรอบ 11 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.96 และเชื่อว่าเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้ ร้อยละ 3 ซึ่งยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากกำลังซื้อในประเทศลดลง แต่เพราะราคาน้ำมันตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ยังใช้มาตรการตรึงราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในปี 2556 คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8-3.4 เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศจะดีขึ้น จากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ และนโยบายรับจำนำสินค้าเกษตร จะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
ส่วนการปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้มภาคครัวเรือน ที่จะทยอยปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมต่อเดือน หรือ 6 บาทต่อปี จะมีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อเล็กน้อย ร้อยละ 0.1228 ต่อปี ซึ่งยังไม่มีผลต่อราคาสินค้ามากนัก
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อรอบ 11 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.96 และเชื่อว่าเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ในกรอบที่คาดการณ์ไว้ ร้อยละ 3 ซึ่งยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากกำลังซื้อในประเทศลดลง แต่เพราะราคาน้ำมันตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ยังใช้มาตรการตรึงราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในปี 2556 คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8-3.4 เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศจะดีขึ้น จากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ และนโยบายรับจำนำสินค้าเกษตร จะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
ส่วนการปรับขึ้นราคาแก๊สหุงต้มภาคครัวเรือน ที่จะทยอยปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมต่อเดือน หรือ 6 บาทต่อปี จะมีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อเล็กน้อย ร้อยละ 0.1228 ต่อปี ซึ่งยังไม่มีผลต่อราคาสินค้ามากนัก