“ทีโอเอ” เร่งขายตลาดภูธรเจาะตลาดบ้านเก่ารีเพนต์

“ทีโอเอ” แจงพฤติการใช้สีทาอาคารเปลี่ยน แนวโน้มความถี่บ้านเก่ารีเพนต์สูงขึ้นเฉลี่ย 7 ปีครั้ง เชื่ออนาคตถี่มากขึ้น หลังผลวิจัยพบลูกค้าสะท้อนความเป็นตัวตนผ่านการใช้สีทาบ้านมากขึ้น ดันตลาดบ้านเก่ารีเพนต์ขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมเผยแผนเจาะลูกค้าบ้านเก่ารีเพนต์ เดินหน้าเพิ่มจุดบริการติดตั้งเครื่องผสมสีเพื่อสุขภาพ VOCs หวังเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดให้มากที่สุด มั่นใจนวัตกรรมสี VOCs ดันยอดขายผ่านเครื่องผสมสีโต 10% หรือกว่า 500 ล้านบาท วางเป้าปี 56 ยอดขายรวม 18,600 ล้านบาท โตจากปี 55 กว่า 20%

น.ส.พวงเพ็ญ แสงเพชร ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากผลการวิจัยตลาดและพฤติกรรมการใช้สีทาอาคารของผู้บริโภค พบว่า ในแต่ละปีจะมีบ้านใหม่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลมีความต้องการใช้สีทาอาคารอยู่ที่ 80,000 หน่วย และในต่างจังหวัด 80,000 หน่วย หรือมีความต้องการใช้สีทาอาคารในตลาดบ้านใหม่รวม 160,000 หน่วยต่อปี ขณะที่ตลาดบ้านเก่ามีความต้องการใช้สีประมาณ 2,000,000 หน่วยต่อปี จากจำนวนประมาณการบ้านเก่าที่มีอายุการอยู่อาศัยเฉลี่ย 10 ปีขึ้น 22.8 ล้านหน่วย

ทั้งนี้ ในปี 2555 บริษัทมีรายได้จากการขายสีทาอาคาร และสีอื่นๆ รวม 15,500 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายสีผ่านเครื่องผสมสี 5,000 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษับตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการขายทั้งปี 18,600 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 20% และตั้งเป้าว่าจะมีรายได้ในส่วนของการขายสีทาอาคารผ่านเครื่องผสมสีเติบโตจาก 5,000 ล้านบาท เป็น 5,500 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10% จากการเพิ่มจำนวนเครื่องผสมสีที่มากขึ้น ผนวกกับการเปิดตัวสี TOA Color World ซึ่งเป็นเครื่องผสมสีเพื่อสุขภาพที่สามารถลดการปล่อยสาร VOCs (Volatile Organic Compounds)

“นอกจากนี้ ยังพบว่าพฤติกรรมการรีเพนต์ หรือทาสีอาคารใหม่ของกลุ่มผู้บริโภคในกลุ่มที่อยู่อาศัยเก่าจะมีการรีเพนต์ทุกๆ 7 ปี และเชื่อว่าในอนาคตความถี่ของการรีเพนต์บ้านเก่าจะถี่มากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันมีความเป็นส่วนตัว และกล้าแสดงความเป็นตัวตนของตัวเองมากขึ้น เช่น การทาสีทาอาคารด้วยสีสันที่สะท้อนความเป็นตัวตนของตัวเองมากขึ้น”

ด้านนายพงษ์เชิด จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า จากข้อมูลข้างต้นบริษัทมีแผนจะขยายตลาดในส่วนของกลุ่มลูกค้าบ้านเก่า หรือลูกค้ารีเพนต์ให้มากขึ้น เนื่องจากตลาดมีขนาดใหญ่มาก โดยเฉพาะตลาดลูกค้าบ้านเก่าในต่างจังหวัด รวมถึงบ้านใหม่ซึ่งมีการขยายตัวตามการขยายการลงทุนในตลาดภูมิภาค ด้วยการส่งเสริมให้ลูกค้าใช้สีเพื่อสุขภาพ VOCs และการเพิ่มความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสี และเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น

โดยในปีนี้ TOA มีแผนเพิ่มจุดให้บริการเครื่องผสมสีในกลุ่มดีลเลอร์ หรือตัวแทนการขายของบริษัทให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศมากขึ้น จากปัจจุบันที่บริษัทมีดีลเลอร์ให้จำหน่ายสี TOA อยู่ทั่วประเทศ 5,000 ราย และมีเครื่องผสมสีให้บริการอยู่ 2,500 เครื่อง/จุด โดยในจำนวนนี้เป็นการเปิดให้บริการเครื่องผสมสีในโมเดิร์นเทรด 200 จุด ส่วนที่เหลือเป็นการให้บริการอยู่ในร้านค้าดีลเลอร์

อย่างไรก็ตาม ในการเพิ่มจำนวนเครื่องผสมสีในร้านค้าดีลเลอร์นั้น จะเป็นการขยายเพิ่มในส่วนของดีลเลอร์ร้านค้าทั่วไป เนื่องจากเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่กว่าร้านค้าโมเดิร์นเทรด ซึ่งโดยมากจะอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าบ้านเก่ามากขึ้น

“ปัจจุบัน TOA ติดตั้งเครื่องผสมสีให้บริการลูกค้าในร้านค้าดีลเลอร์ทั่วประเทศ 2,500 ร้านค้า ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อำเภอขนาดใหญ่ในต่างจังหวัด 600-700 อำเภอ จากจำนวนอำเภอทั้งหมดทั่วประเทศ 1,000 อำเภอเศษ และในปีนี้จะทยอยติดตั้งเครื่องผสมสีในร้านค้าดีลเลอร์ในอำเภออื่นๆ ที่มีร้านค้าดีลเลอร์เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้มีความครอบคลามคามต้องการของลูกค้ามากที่สุด”

ทั้งนี้ ในปัจจุบันสัดส่วนการซื้อสีของกลุ่มผู้บริโภคในตลาดมีการปรับเปลี่ยนไปจากอดีตไปมาก จากเดิมที่ซื้อสีมาตรฐาน เปลี่ยนเป็นมาซื้อสีผ่านเครื่องผสมสีมากขึ้น โดยขณะนี้สัดส่วนการซื้อสีผ่านเครื่องผสมสีสูงเกินกว่า 50% แล้ว และยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสัดส่วนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของของค้าได้มากกว่าการซื้อสีมาตรฐานไปทำการผสมเอง