“คีรี” ปลื้ม “บีทีเอสโกรท” เข้าเทรดวันแรกฉลุย เปิดการซื้อขายที่ 12.50 บาท สูงกว่าราคาไอพีโอ 15.74% เล็งปรับขึ้นค่าโดยสาร หลังคาอัตราเดิมนานต่อเนื่องถึง 8 ปี ลั่นไม่ใช้เพดานสูงสุด เพราะอาจกระทบค่าครองชีพ
บรรยากาศการเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ในหมวดขนส่งและโลจิสติกส์ กลุ่มบริการ เมื่อเช้าที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 12.50 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาไอพีโอที่เสนอขายหน่วยละ 10.80 บาท หรือเพิ่มขึ้น 15.74% มูลค่าการซื้อขายขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน 10 อันดับแรกหลักทรัพย์ที่มูลค่าการซื้อขายสูงสุด
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS) กล่าวว่า ราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 17% เพราะนักลงทุนมั่นใจว่าการลงทุนในกองทุนนี้มั่นคง เหมาะกับการลงทุนระยะยาว และสร้างเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหหน่วยได้ต่อเนื่อง ตามการเติบโตของผู้โดยสารที่ปัจจุบันเติบโตมากถึง 7.5 แสนคนต่อวัน
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนจะใช้เตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า สำหรับการร่วมโครงการกับทางภาครัฐ โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะทำให้เงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การลงทุนรถไฟฟ้าสายหนึ่งต้องใข้เงิน 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากบริษัทได้ร่วมงานกับรัฐบาลเพิ่ม ก็จะต้องมีการระดมทุนเพิ่มจากด้านอื่นๆ ด้วย เช่น สถาบันการเงิน ซึ่งเชื่อมั่นว่าสถาบันการเงินจะยินดีสนับสนุน ปัจจุบัน บริษัทไม่มีหนี้ และสามารถก่อหนี้ได้อีก 1 แสนล้านบาท
สินทรัพย์ในอนาคตที่จะได้มา บริษัทอาจพิจารณาขายเข้ากองทุนเดิม ซึ่งการขยายสินทรัพ์กองทุนนั้น บริษัทยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท เพราะรายได้จากเงินปันผลที่บริษัทได้รับจากการถือหน่วย 33% น้อยกว่ารายได้ที่บริษัทเคยได้รับการบริษัทลูกเล็กน้อย เนื่องจากกองทุนนี้ไม่มีค่าเสื่อมราคา และไม่มีภาษี
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร หลังจากที่ไม่ได้ปรับมา 8 ปี เพราะต้นทุนต่างๆ ปรับเพิ่มขึ้น โดยเพดานราคาสูงสุดที่สามารถปรับขึ้นได้คือ 56 บาท จากปัจจุบันที่ราคาค่าโดยสารสูงสุดอยู่ที่ 40 บาท อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่ปรับถึงเพดานสูงสุดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร
นายคีรี กล่าวอีกว่า ในช่วงนี้เป็นจังหวะเหมาะสมที่บริษัทจะเริ่มลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่ชะลอไป โดยได้มอบหมายให้บริษัท บีทีเอส แอสเซท เป็นผู้ลงทุน เนื่องจากช่วงนี้ผู้ประกอบการรายอื่นเริ่มชะลอการลงทุน จึงถึงเวลาที่บริษัทเริ่มลงทุนได้แล้ว