xs
xsm
sm
md
lg

ชี้กองอินฟาร์ฯน่าลงทุน บีทีเอสโกรทแห่จองล้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กองทุนโครงสร้างพื้นฐานฮอต ปลอดภาษีลงทุนแถมมีสินทรัพย์หลากหลาย ระบุเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนอกจากกองทุนอสังหาฯ ด้านบลจ.บัวหลวงสุดปลื้ม ยอดจองกองบีทีเอสโกรทล้น ไอพีโอสูงสุดในไทยกว่า 6 หมื่นล้านบาท

นายเมธี วินิชบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ กลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวถึงการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานว่า การลงทุนทั้ง 2 ประเภทมีความเหมือนกัน คือมีรายได้จากธุรกิจที่มั่นคง แต่แตกต่างกันคือ กองทุนโครงสร้างพื้นฐานไม่เสียภาษีจากผลตอบแทนที่ได้รับ และกองทุนทุนประเภทโครงสร้างพื้นฐานมีการลงทุนที่หลากหลายกว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์

โดยในส่วนของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนั้น ต้องดูในเรื่องของรายได้จากธุรกิจที่ลงทุน รวมไปถึงความแน่นอนในเรื่องสัญญาระหว่างภาครัฐ ซึ่งหากมีกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจที่เหมือนกันออกมา กองทุนนั้นก็มีคสามแตกต่างในเรื่องของราคาประเมิน ในการประมูลที่แตกกันให้พิจารณาลงทุน โดยในส่ของ บลจ.ไทยพาณิชย์เองนั้น ให้ความสนใจกับกับลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานทุกประเภทธุกิจ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่ากองทุนโครงสร้างพื้นฐานหากเกิดขึ้นก็จะเป็นการลงทุนในภาคเอกชนมากกว่าทางภาครัฐ เพราะมีในเรื่องของความเข้าใจที่ต่างกัน และอาจจะมีการพูดถึงในมุมมองที่ต่างออกไป รวมไปถึงข้อกฏหมายต่างๆ ด้วยเช่นกัน

"ผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงร้างพื้นฐานนั้น ให้ผลตอบแทนที่ดีและนิ่งกว่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นการลงทุนในปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจ ขณะที่กองทุนอสังหาฯอาจมีไม่แน่นอนในรายได้ของธุรกิจ" นายเมธี กล่าว

นายเมธี ยังกล่าวว่า ปัจจุบันสภาพคล่องในตลาดที่มีสูงกองทุนอสังหาฯก็เป็นทางเลือกลงทุนที่น่าสนใจ ซึ่งทาง บลจ.ไทยพาณิชย์ เตรียมที่จะออกกองทุนอสังหาฯ อีกหลายกองทุนปีนี้ มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท รวมถึงการเพิ่มทุนอีกในช่วงกลางปีนี้ นอกเหนือจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท “ERWPF”เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองแรกที่เข้าจดทะเบียนในช่วงที่ผ่านมา

**ยอดจองกองBTSล้น**
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดขายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท หรือ BTSGIF ที่ผ่านมานักลงทุนให้ความเชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจว่า กองทุน ดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับรายได้ที่สม่ำเสมอจากการลงทุน พร้อมกับโอกาสรับรายได้ที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคตอันเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจำนวนของผู้โดยสาร โดย BTSGIF มีประมาณการอัตราเงินจ่ายคืนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตามสมมุติฐานต่างๆ ในปีแรกสิ้นสุด วันที่ 31 มี.ค. 2557 ตามที่ปรากฏอยู่ในหนังสือชี้ชวน โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับเงินจ่ายคืนในอัตราร้อยละ 5.8

นอกจากนี้แล้วคาดว่าหน่วยลงทุนของ BTSGIF จะเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก ในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556 โดยจะทำการซื้อขายภายใต้กลุ่มกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ โดยใช้ตัวย่อหลักทรัพย์ว่า “BTSGIF”

ด้านคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความสำเร็จของการทำไอพีโอในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่มีต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยเฉพาะรถไฟฟ้า BTS ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร และยังเป็นธุรกิจที่มีจุดเด่นเป็นที่สนใจของนักลงทุน และต่อจากนี้นักลงทุนจะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศตามนโยบายของภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม การเสนอขายหน่วยลงทุนในครั้งนี้ มีมูลค่า 62,510.4 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นหนึ่งในไอพีโอที่มีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และเป็นไอพีโอที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกในปี พ.ศ. 2556 โดยประมาณการอัตราเงินที่จ่ายคืนแก่ผู้ถือหน่วยในปีแรก ตามหนังสือชี้ชวน อยู่ที่ร้อยละ 5.8

ทั้งนี้การเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนดังกล่าวได้รับความสนใจจองซื้อจากผู้จองซื้อทั่วไป หรือนักลงทุนรายย่อยในประเทศและนักลงทุนสถาบันทั่วโลกเป็นจำนวนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมากแม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดหลักทรัพย์โลกมีความผันผวน โดยมีจำนวนใบจองซื้อจากผู้จองซื้อทั่วไป หรือนักลงทุนรายย่อย กว่า 56,900 ใบจองคิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มีการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

กำลังโหลดความคิดเห็น