รมช.คลัง หนุนโรงงานยาสูบทำตลาดต่างประเทศ เจาะกลุ่มสิงห์อมควันเออีซี พร้อมเร่งผลิตสินค้าคุณภาพตอบสนองความต้องการ และก้าวสู่ความเป็นสากล
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในโอกาสครบรอบวันสถาปนาโรงงานยาสูบ 75 ปี โดยระบุว่า ปีที่ผ่านมาโรงงานยาสูบนำส่งรายได้เข้ากระทรวงการคลัง 8,590 ล้านบาท ถือเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลังนำส่งรายได้มากที่สุด ขณะที่ยอดขายปี 2555 จำนวน 32,600 ล้านมวน คิดเป็นมูลค่า 70,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2554 ที่มียอดใกล้เคียงกัน และมียอดขายเป็นเงิน 69,800 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมบุหรี่ไทยที่ผลิตจากโรงงานยาสูบมีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็นร้อยละ 33 บุหรี่ต่างประเทศนำเข้าถูกกฎหมายมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 12 บุหรี่หนีภาษีร้อยละ 10 ขณะที่บุหรี่มวนเองอยู่ที่ร้อยละ 45 อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังมีนโยบายสนับสนุนให้โรงงานยาสูบขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยผลิตสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด
นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ผู้อำนวยการยาสูบ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 75 มีนโยบายที่จะก้าวสู่มาตรฐานเหนือกว่าพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ด้วยการเตรียมเปิดโรงงานใหม่ 2 แห่ง ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ซึ่งการก่อสร้างมีความคืบหน้าอย่างมาก ขณะเดียวกัน มีความพร้อมที่จะก่อสร้างโรงงานในพื้นที่ภาคเหนือ โดยทั้ง 2 แห่งจะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตบุหรี่ให้ได้ระดับสากล และเน้นกระบวนการสนับสนุนการปลูกใบยาสูบที่ปัจจุบันประเทศไทยสามารถผลิตใบยาสูบเทียบเท่าแหล่งปลูกระดับโลกอีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ชาวไร่ยาสูบ คาดว่า โรงงานทั้ง 2 แห่งเมื่อก่อสร้างเสร็จจะแบ่งกำลังการผลิตไปที่นิคมฯ โรจนะ ร้อยละ 60 และจะดำเนินการควบคู่ไปกับการลดต้นทุนการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงหาลู่ทางในการดำเนินธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการต่างประเทศ เชื่อว่าจะสามารถชะลอไม่ให้ยอดขายบุหรี่ต่างประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดดเกินไป นอกจากนี้ การย้ายโรงงานยังช่วยให้เกิดการจ้างงานเกษตรกรผู้ปลูกใบยาได้อีกทางหนึ่ง
