xs
xsm
sm
md
lg

ทิพยฯ ย้ำแผนรุกรายย่อย ตั้งเป้าเบี้ยประกันโต 15%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ทิพยประกันภัย” ย้ำแผนบุกตลาดรายย่อย ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปีนี้โต 15% เน้นเพิ่มช่องทางขายและพันธมิตรใหม่มากขึ้น โชว์ปี 55 ผลงานทะลุเป้า กวาดเบี้ยประกันภัย 2.1 หมื่นล้านบาทโตกว่า 45% ฟื้นตัวหลังโดนผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมปี 54

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2556 บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับไว้ไม่ต่ำกว่า 15% โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดรายย่อยอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรองรับและสนองความต้องการของลูกค้า การเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนการพัฒนาช่องทางการขายใหม่ๆ ให้ครอบคลุมและเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงคำนึงถึงแผนบริการสินไหมเพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งในส่วนของสินไหมรถยนต์ และสินไหมทั่วไป ซึ่งต้องเน้นความรวดเร็วทั้งในการเข้าถึงลูกค้าและการจ่ายสินไหม และต้องปิดจ่ายสินไหมอย่างเป็นธรรมด้วย

ส่วนผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวมขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 21,522.55 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเบี้ยประกันภัยรับปี 54 เพิ่มขึ้นกว่า 45.11%

โดยจำแนกเบี้ยประกันภัยตามประเภทประกันภัยได้ ดังนี้ เบี้ยประกันอัคคีภัยจำนวน 1,788.18 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยทางทะเลและขนส่ง 396.73 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 4,722.67 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล 6,297.53 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 8,317.44 ล้านบาท

จากรายได้เบี้ยประกันภัยรับรวมที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 264.63 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.88 บาท บริษัทมีสินทรัพย์รวม 54,733.78 ล้านบาท หนี้สินรวม 51,142.02 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 3,591.76 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานในปี 55 ที่ผ่านมายังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสูงกว่าเป้าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในปี 2555 บริษัทฯได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับไว้ที่ 30% หรือคิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 18,000 ล้านบาท

“ผลการดำเนินงานของทิพยประกันภัย ในปี 55 นับว่า ประสบความสำเร็จอยู่ในระดับที่น่าพอใจ หลังจากปลายปี 54 บริษัทฯ ต้องประสบปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้บริษัทต้องชดเชยค่าสินไหมแก่ผู้เอาประกันเป็นจำนวนมาก” นายสมพรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น