xs
xsm
sm
md
lg

BEAUTY ปรับเป้ารายได้ทะลุ 1 พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บิวตี้ คอมมูนิตี้ ปรับเป้ารายได้ปีนี้ทะลุ 1,000 ล้านบาท โตอย่างน้อย 30% ลุยขยายสาขา
BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE ทั้งใน และต่างประเทศ พร้อมส่ง MADE IN NATURE บุกโมเดิร์นเทรด-ตลาดออนไลน์ เผยแผนเตรียมออกผลิตภัณฑ์เจาะร้านสะดวกซื้อ พร้อมเปิดตัวร้านใหม่ภายในไตรมาส 3 ขณะที่ผลงานปี 55 กำไรพุ่ง 173.70 ล้านบาท เตรียมจ่ายปันผล 60.45%

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ BEAUTY ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และบำรุงผิว เปิดเผยว่า รายได้รวมของบริษัทในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตมากกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตอย่างน้อย 30% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 20%

โดยสาเหตุที่บริษัทมีการปรับเป้าหมายการเติบโต เนื่องจากการขยายสาขาของร้าน BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE ออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยภายในปี 56 ตั้งเป้าขยายสาขาทั่วประเทศของ BEAUTY BUFFET จำนวน 180 สาขา จากปัจจุบัน 155 สาขา และ BEAUTY COTTAGE จำนวน 50 สาขา จากปัจจุบัน 34 สาขา ขณะที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว MADE IN NATURE ได้มีการขยายช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดเพิ่มมากขึ้น โดยได้เริ่มวางจำหน่ายในบิ๊กซี จำนวน 110 สาขา เมื่อต้นเดือน มี.ค. 56 ส่วน LOTUS และ TOPS ได้รับการตอบรับจากห้างแล้ว และอยู่ในระหว่างการดำเนินการด้านเอกสาร คาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายได้ในเดือน ก.ค. 56 MAX VALUE และ ISETAN อยู่ในระหว่างขั้นตอนการกระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายต้น เม.ย.56 รวมทั้งจะมีการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ Ensogo Zalora และ Trendyday ในเดือน เม.ย.56
 และยังมีแผนจำหน่ายสินค้าผ่าน Friday แค็ตตาล็อกซึ่งได้รับการตอบรับแล้วและคาดว่าจะวางจำหน่ายในเดือน มิ.ย.56 และ MADE IN NATURE จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มจากเดิม 2 รายการ เป็น 6 รายการ

สำหรับการขยายตลาดในต่างประเทศ บริษัทมีเป้าหมายเปิดสาขา เพิ่มจำนวน 7 สาขา ประกอบด้วย ประเทศกัมพูชา 3 สาขา (บิวตี้ บุฟเฟต์ที่กรุงพนมเปญ 2 สาขา, เสียมเรียบ 1 สาขา) ประเทศลาว 2 สาขา (บิวตี้ บุฟเฟต์ 1 สาขา บิวตี้ คอทเทจ 1 สาขา) ประเทศเวียดนามที่โฮจิมินห์ ซิตี 2 สาขา (บิวตี้ บุฟเฟต์ 1 สาขา, บิวตี้ คอทเทจ 1 สาขา)

นายแพทย์สุวิน กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากการขยายช่องทางการจำหน่ายของผลิตภัณฑ์เดิมแล้ว บริษัทมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11 และร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังได้วางแผนเปิดชอปแบรนด์ใหม่ ซึ่งจะมีขนาดร้านใหญ่กว่า BEAUTY BUFFET และเป็นร้าน Multi-Brands ที่มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์มากขึ้นแต่จะมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันเพื่อเจาะกลุ่มฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดตัวในไตรมาส 3/2556

“การเติบโตของรายได้รวมในปีนี้จะสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่เราเคยวางไว้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งมีช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงผู้ใช้ทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึงกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม BEAUTY ยังคงเน้นรักษาอัตราการทำกำไรให้อยู่ในเกณฑ์ดี โดยมีเป้าหมายรักษาอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70%” นายแพทย์สุวินกล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานของ BEAUTY งวดปี 2555 บริษัทมีรายได้รวม 777.65 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นยอดรายได้สูงสุดของการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา และปรับตัวเพิ่มขึ้น 26.38% จากปี 54 ที่มีรายได้รวม 615.31 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 173.70 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 29.41% จากปี 54 ที่มีกำไรสุทธิ 134.22 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขยายสาขา และยอดขายที่เพิ่มขึ้นของร้าน BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 60.45% ของกำไรสุทธิ จากนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ หรือคิดเป็นเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 8 พ.ค.56 ประกาศปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 9 พ.ค.56 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พ.ค.56


กำลังโหลดความคิดเห็น