หุ้นครึ่งวันเช้าปิดลบ 1.50 จุด ทิศทางเดียวกับภูมิภาค โบรกฯ คาดต่างชาติยังขายหุ้นไทยต่อเนื่อง กังวลแก้ รธน. คาบสมุทรเกาหลี และบาทแข็ง แนะจับตาดัชนีอาจหลุด 1,400 จุด ขณะเดียวกัน ก็มีการประเมินว่ามีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้ามาทยอยช้อนหุ้นพื้นฐานดี ขณะที่เม็ดเงินนอกบางส่วนได้ขายทำกำไรในตลาดหุ้น แล้วโยกไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่น เช่น กองทุนเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (10 เม.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,469.22 จุด ปรับลดลง 1.50 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.10% มูลค่าการซื้อขาย 19,599.85 ล้านบาท ทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่แกว่งผันผวนในแดนบวกสลับแดนลบ
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) แนะจับตาหากดัชนีปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,475 จุดลงไป ทำให้แนวโน้มของตลาดหุ้นไทยมีความเสี่ยงต่อการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่บริเวณ 1,400 จุดได้
ขณะที่ บล.เคจีไอ มองว่า แนวโน้มในช่วงสั้นต่างชาติน่าจะขายหุ้นไทยต่อจากความไม่แน่นอนทางการเมืองว่าด้วยการแก้รัฐธรรมนูญ และความเสี่ยงในเอเชีย เช่น สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งโรคไข้หวัดนก (H7N9) ซึ่งยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มในจีนอยู่ ขณะที่เงินบาทแข็งเร็วเกินไปจะส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลต่อมาตรการควบคุมอีกครั้ง แม้ว่าทางการยืนยันว่าจะไม่มีก็ตาม
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในวัน และในคืนนี้ ได้แก่ ตัวเลขส่งออกและนำเข้า มี.ค. ของจีน และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในคืนนี้ ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง แนะชะลอการลงทุน หรือเก็บหุ้นพื้นฐานเพื่อระยะยาว
ขณะเดียวกัน ก็มีการประเมินว่ามีเม็ดเงินใหม่ไหลเข้ามาทยอยช้อนหุ้นพื้นฐานดี หลังธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่เม็ดเงินนอกบางส่วนได้ขายทำกำไรในตลาดหุ้นแล้วโยกไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่น เช่น กองทุนเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 10 เม.ย.2556 แกว่งตัวไปมาอยู่ในแดนบวกและลบ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด เป็นแรงซื้อแรงขายของนักลงทุน 2 กลุ่มที่มีมุมมองต่างกัน กลุ่มหนึ่งต้องการขายเพื่อปรับพอร์ตการลงทุน รับช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง อีกกลุ่มหนึ่งต้องการซื้อ เพราะมองเห็นว่าหุ้นไทยตอนนี้ปรับตัวลงมาเยอะแล้ว