อุณหภูมิการเมืองร้อน บวกข่าวลือออกมาตการคุมเงินไหลเข้า กดหุ้นไทยรูด 30 จุด ต่างชาติขาย 1.9 พันล้าน โบรกฯ คาดอาจปรับตัวลงต่อก่อนรีบาวนด์หลังแตะ 1,500 จุด แนะติดเบรกชะลอการลงทุน ถือเงินสดแทน “วิชัย ทองแตง” ชี้หุ้นไทยยังเด่น มองดัชนีขาลงเป็นโอกาสซื้อของถูก ขายตอนแพง
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้ (3 เม.ย.) ดัชนีปรับตัวผันผวนจัด โดยเฉพาะการซื้อขายในช่วงบ่าย แม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่ดัชนีกลับปรับตัวลดลงร่วม 30 จุด โดยปิดที่ระดับ 1,520.52 จุด ลดลง 30.02 จุด หรือ -1.94% มูลค่าการซื้อขาย 59,179.29 ล้านบาท ซึ่งมีรายงานว่า นักลงทุนเกิดความกังวลว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจมีมาตรการออกมาควบคุมเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้า และยังมีความกังวลต่อกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมชี้มูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปล่อยเงินกู้ 30 ล้านบาท ให้บริษัท แอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด ของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี
โดยระหว่างวัน ดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,562.39 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,518.60 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,960.69 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 471.24 ล้านบาท ขณะที่สถาบันซื้อสุทธิ 1,237.43 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 1,194.50 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศ พบว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับลง 27.80 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 4,957.70 จุด, ดัชนีเวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวันบวก 29.17 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 7,942.35 จุด, ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว เพิ่มขึ้น 358.77 จุด หรือ 2.99% ปิดที่ 12,362.20 จุด, ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลง 2.93 จุด ปิดที่ 1,983.22 จุด เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศลดการถือครองหุ้น จากปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ขณะที่เงินวอนแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต กล่าวว่า มีแรงขายทำกำไรออกมา ส่งผลให้ตลาดปรับลงค่อนข้างแรง เนื่องจากมีปัจจัยลบเข้ามากดดันหลายเรื่อง เช่น การแก้รัฐธรรมนูญ กรณี ป.ป.ช. จะพิจารณากรณีที่นายกรัฐมนตรีปล่อยกู้ให้แก่บริษัทคู่สมรส กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% แล้วจะมีมาตรการอื่นๆ ออกมาเพื่อชะลอการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ
สำหรับแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) มองว่า ดัชนียังมีโอกาสที่จะลงต่อ แต่หากลงไปถึง 1,500 จุด อาจจะสามารถรีบาวนด์กลับขึ้นมา โดยมีแนวรับ 1,510 จุด และแนวต้านที่ 1,540 จุด
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์รายอื่นๆ ให้ความเห็นว่า การปรับตัวลง 30 จุด สาเหตุส่วนใหญ่เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อปัจจัยลบภายในประเทศ โดยเฉพาะการเมือง กรณี ป.ป.ช. เตรียมชี้มูลนายกรัฐมนตรี การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ จึงส่งผลให้เกิดแรงเทขายออกมาบางส่วน จากนักลงทุนที่มีกำไรแล้ว ตอนนี้กลยุทธ์ที่แนะนำ คือ ให้ถือเงินสด หากไม่เชี่ยวชาญการลงทุนแบบเก็งกำไร
ด้าน นายวิชัย ทองแตง รองประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปีนี้ยังอยู่ในทิศทางที่น่าลงทุน เนื่องจากระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทน และสร้างกำไรได้ในอัตราที่สูง อีกทั้งปัจจัยภายนอกประเทศไม่ได้กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนมากเท่าใด ดังนั้น ในช่วงนี้ที่ดัชนีปรับตัวลงให้รอจังหวะเหมาะสมเข้าซื้อ แล้วขายทำกำไรเมื่อราคาหุ้นปรับตัว โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล มูลค่า 2 ล้านล้านบาท
