กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน แต่งตั้ง “กิตติรัตน์” นั่งเก้าอี้ประธานฯ พร้อมแต่งตั้ง “วราเทพ-จาตุรนต์-วรวัจน์-กรณ์-ไพจิต-วิทยา” นั่งรองประธาน โดยจะมีการประชุมครั้งต่อไป 9 เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาหลักการและเหตุผล รวมถึงภาพรวมของกฎหมายฉบับนี้ว่า มีความจำเป็นต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างไร ที่มาของเงินที่จะมาลงทุนนั้นมาจากไหน และการบริหารจัดการโครงการรวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... ได้ประชุมเป็นครั้งแรก โดยมีนายชัย ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมชั่วคราว เพื่อเลือกตำแหน่งต่างๆ ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือก นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมาธิการฯ ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเลือกรองประธานกรรมาธิการฯ อีก 6 คน ได้แก่ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานคนที่ 1 นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานคนที่ 2 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นรองประธานคนที่ 3 นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรองประธานคนที่ 4 นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานคนที่ 5 และนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรองประธานคนที่ 6 จากนั้น ที่ประชุมได้เลือก นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นเลขานุการกรรมาธิการฯ
สำหรับโฆษกกรรมาธิการฯ นั้นมีทั้งหมด 3 คน ได้แก่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ ได้แก่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายชัย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ
สำหรับการเลือกรองประธานกรรมาธิการฯ นั้น เกิดการถกเถียงกันเล็กน้อย เนื่องจากที่ประชุมเลือก นายกรณ์ เป็นรองประธานคนที่ 5 ซึ่งนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทักท้วง และขอให้นายกรณ์เป็นรองประธานคนที่ 3 เพื่อความเหมาะสม ทำให้นายวรวัจน์ ต้องลุกขึ้นมาเจรจากับนายวิฑูรย์ สุดท้ายที่ประชุมจึงให้นายกรณ์ เป็นรองประธานคนที่ 4 ส่วนกำหนดวันเวลาในการประชุมนั้น ที่ประชุมกำหนดให้มีการประชุมทุกวันจันทร์ และวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 13.30-21.00 น.
ทั้งนี้ เบื้องต้นกำหนดให้มีการพิจารณาตามลำดับคือ 1.การตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของ พ.ร.บ. ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาไม่นาน และอาจจะเชิญคณะกรรมการกฤษฎีกามาชี้แจง 2.เหตุผลและความจำเป็นในการกู้เงิน ความพร้อม และประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะเชิญสภาพัฒน์ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานรัฐวิสาหกิจ และกระทรวงการคลังมาชี้แจง 3.ระเบียบวิธีการคลัง แหล่งเงิน กระบวนการตรวจสอบการใช้งบประมาณ ซึ่งจะเชิญธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางมาชี้แจง 4.พิจารณาโครงการและบัญชีแนบท้าย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลานานที่สุดในชั้นนี้ และจะเชิญกระทรวงคมนาคมมาชี้แจง และ 5.สรุปกฎหมายรายมาตรา ซึ่งจะพิจารณาถึงหลักการ เหตุผล และประโยชน์
นายวราเทพ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า จะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 9 เม.ย. เพื่อพิจารณาหลักการและเหตุผล รวมถึงภาพรวมของกฎหมายฉบับนี้ว่า มีความจำเป็นต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างไร ที่มาของเงินที่จะมาลงทุนนั้นมาจากไหน และการบริหารจัดการโครงการ รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ และสภาพัฒน์ มาชี้แจงด้วย ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ จะเน้นเรื่องเนื้อหาสาระสำคัญ ดังนั้น จึงไม่ได้กำหนดว่าจะต้องแล้วเสร็จเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอยากให้มีการลงทุนภายในปี 2556 ดังนั้น กฎหมายดังกล่าวอาจจะให้คู่ขนานกับการใช้งบประมาณปี 2557 ซึ่งหากสามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จเร็วก็อาจจะเข้าสู่การประชุมสภาสมัยวิสามัญในช่วงปลายเดือน พ.ค.ได้ แต่ถ้าหากไม่ทันก็จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในการเปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญทั่วไปในเดือน ส.ค.ได้ เพื่อความรอบคอบ ไม่จำเป็นต้องเร่งรัด
นอกจากตำแหน่งต่างๆ ดังกล่าวแล้ว นายสามารถ เปิดเผยว่า ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ยังได้เสนอให้มีการตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการอีก 21 คน จากเดิมที่มีกรรมาธิการอยู่แล้วทั้งหมด 36 คน โดยยึดตามสัดส่วนกรรมาธิการของแต่ละพรรค ซึ่งข้อเสนอนี้ล้อมาจากการทำงานของคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาที่แต่ละคณะจะมีคณะที่ปรึกษาจำนวน 21 คนมาช่วยงาน โดยเบื้องต้น ฝ่ายรัฐบาลได้รับข้อเสนอนี้ไปดูในรายละเอียด
“เราเสนอให้ตั้งที่ปรึกษาที่เป็นนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งด้านการเงิน การคลัง ระบบขนส่ง เพราะบางครั้งพวกเราที่เป็นกรรมาธิการก็อาจจะไม่มีเวลา หรือไม่มีความรู้พอ หากเป็นผู้เชี่ยวชาญก็จะมาช่วยดูในรายละเอียดได้” ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์กล่าว