xs
xsm
sm
md
lg

มติ ภท.ถอน พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน เชื่อแนวคิด “แม้ว” ซัดกู้เพื่อพี่หนี้เพื่อ ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(แฟ้มภาพ)
“บุญจง” เผยที่ประชุม ภท.มีมติ ไม่หนุน พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน พร้อมส่ง ส.ส.อภิปรายค้าน ไม่เชื่อมือ ก.คมนาคมคุมรถไฟความเร็วสูง เหตุบริหาร ร.ฟ.ท.-ขสมก.ยังขาดทุน แถมเจอดอกเบี้ยคาดส่อล้ม แนะกู้รายปี ให้เอกชนดูแบบบีทีเอส ซัด กู้เพื่อพี่หนี้เพื่อ ปชช. ตอกลอก ตปท.ไม่ดูความพร้อม ชี้หนักกว่าปี 40 ใช้หนี้ไม่หมด ปชช.รับเคราะห์ เย้ย “แม้ว” คิดแทน รมว.คลัง

วันนี้ (26 มี.ค.) ที่พรรคภูมิใจไทย มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส.พรรค โดยมี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคและ ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานในการประชุม โดยพิจารณาเรื่องที่รัฐบาลจะเสนอ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท

นายบุญจงเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติไม่ให้การสนับสนุน พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยในวันที่ 28-29 มี.ค.นี้ ได้เตรียม ส.ส.ไว้ 6-7 คน อาทิ นายบุญจง นายชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายโสภณ ซารัมย์ อดีต รมว.คมนาคม ซึ่งประเด็นหลักที่จะอภิปราย คือ กรณีที่รัฐบาลเสนอกู้เงินแต่ไม่มีรายละเอียด และรูปแบบที่ชัดเจนในการสร้างรถไฟความเร็วสูง และยังไม่มีการสำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) อีกทั้งเรายังไม่มั่นใจในการบริหารจัดการเงินกู้โดยให้กระทรวงคมนาคมเป็นผู้ดำเนินการ เพราะขณะนี้ ขสมก.และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ก็ยังมีปัญหาขาดทุนทุกปี ดังนั้นหากจะให้เข้ามาบริหารรถไฟความเร็วสูงก็เชื่อว่าจะมีสภาพไม่ต่างจากรัฐวิสาหกิจดังกล่าว แล้วจะต้องชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยเป็น จำนวน 5 ล้านล้านบาท เมื่อครบ 50 ปี ก็ไม่เชื่อว่าจะสามารถทำได้

นายบุญจงกล่าวต่อว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตหัวหน้าพรรค และส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เสนอที่ประชุมว่า เพราะเหตุใดรัฐบาลจึงไม่กู้เป็นรายปีหรือระดมทุนจากนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาร่วมลงทุน และให้สัมปทานแก่เอกชนเป็นเวลา 30 ปี จากนั้นจึงให้โครงการดังกล่าวตกเป็นของรัฐบาลไทย โดยช่วงที่เอกชนได้รับสัมปทานรัฐบาลต้องควบคุมค่าโดยสารไม่ให้กระทบต่อประชาชน ซึ่งเป็นการทำในรูปแบบของรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือดอนเมืองโทลล์เวย์

รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวต่อว่า การกู้ครั้งนี้ของรัฐบาลปูจึงขอเรียกว่า “กู้เพื่อพี่ หนี้เพื่อประชาชน” โดยใช้ทฤษฎีเห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง โดยไปดูงานจากประเทศชั้นนำแล้วอยากได้ตามเขาโดยไม่ได้ดูความพร้อมของตัวเอง โดยเอาประเทศเป็นหลักประกัน และคนไทยเป็นผู้ค้ำประกัน และหาก 50 ปี ไม่สามารถชำระหนี้ได้ประเทศชาติก็จะถูกยึดหรือไม่ก็จะต้องถูกรัฐบาลมาเรียกเก็บภาษีจำนวนมากเพื่อชำระหนี้ และการกู้ครั้งนี้ถือว่าเป็นหนี้ครั้งประวัติศาสตร์ และมากกว่าตอนเกิดวิกฤตการณ์ปี 40 ที่เป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ 5.6 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนั้นประเทศไทยก็มีความยากลำบากมากแล้ว

“ดังนั้นเมื่อรายละเอียดของโครงการไม่ชัดเจนจึงขอกล่าวหาว่ากู้มาโกง และเชื่อว่าการกู้ครั้งนี้ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ รัฐมนตรีคลังคงไม่มีสมองคิดเรื่องนี้” นายบุญจงกล่าว

นายบุญจงกล่าวต่อว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันให้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อกลับไปถามความเห็นประชาชนโดยทำประชามติ เพราะตอนที่รัฐบาลเลือกตั้งเข้ามาก็ไม่ได้บอกว่าจะมากู้เงินมากขนาดนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น