เอ็มดีใหม่ บสส.โชว์แผนระยะยาว 5 ปี ยกระดับ AMC แห่งชาติ ขยายธุรกิจสู่ที่ปรึกษาปรับโครงสร้างหนี้-สร้างองค์กรเติบโตยั่งยืน ส่วนแผนงานปีนี้ เน้นบริหารจัดหนี้ที่รับโอนมาจาก บสท.ตั้งเป้าผลตอบแทน 20% พร้อมเล็งบริหารหนี้เน่าเอสเอ็มอีแบงก์-ไอแบงก์
นายชูเกียรติ จิตติไมตรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปีนี้ว่า จะเน้นการบริหารจัดการในส่วนของสินทรัพย์ที่ได้ซื้อมาจากบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ซึ่งมีทั้งส่วนของหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์รอการขาย (NPA) โดย ณ สิ้นปี 2555 บริษัทมียอดคงค้างของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพรวม 432,384 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของ NPL จำนวน 417,751 ล้านบาท เป็นส่วนที่มาจาก บสท. 61.55% และส่วนของ NPA จำนวน 14,633 ล้านบาท มาจากส่วนของ บสท. 67.27%
นายชูเกียรติ กล่าวอีกว่า ในตอนที่ตัดสินใจซื้อพอร์ตกลับคืนมาจาก บสท.นั้น ก็ต้องอธิบายต่อคณะกรรมการ และผู้ถือหุ้นถึงแนวทางในการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดรายได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นหนี้ที่ยืดเยื้อมากว่า 10 ปีแล้ว มีความซับซ้อนและอาจทำให้มีความเสียหายได้ โดยแนวทางที่ บสส.วางไว้นั้น เป็นแนวทางที่มีความยืดหยุ่น และนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ลูกหนี้เพื่อให้การปรับโครงสร้างหนี้ได้ผล
“แนวทางของเราต่างจาก บสท. ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บสท.อาจจะทำอะไรไม่ได้มากเพราะติดขัดเรื่องระยะเวลาและข้อกฎหมาย จึงเชื่อว่าน่าจะสามารถบริหารจัดการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าจะผลตอบแทนประมาณ 20% ของพอร์ต บสท.ที่บริหารจัดการเสร็จ”
ส่วนการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินต่างๆ นั้น ก็ยังให้ความสนใจอยู่ และเท่าที่ทราบ ก็เริ่มมีธนาคารพาณิชย์บางแห่งเริ่มจะเสนอขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมาแล้ว ซึ่งหาก บสส.มีเงินทุนที่เพียงพอ ก็จะหารือเพื่อเข้าร่วมเสนอซื้อต่อไป แต่หลักใหญ่ๆ ในปีนี้อยากทำเรื่อง บสท.ให้นิ่งก่อน
เดินหน้ายกระดับเป็น AMC แห่งชาติ
สำหรับแผนงานในระยะ 5 ปีที่ทำไว้นั้น บสส.ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์แห่งชาติ ที่จะดำเนินธุรกิจทั้งในส่วนเดิมคือ การบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และเพิ่มในส่วนของการเป็นที่ปรึกษา และรับจ้างบริหารหนี้ให้องค์กรต่างๆ ด้วย โดยจะมีการปรับระบบการทำงานเพื่อรองรับแนวทางดังกล่าวต่อไป
“ในอนาคตหนี้ด้อยคุณภาพก็จะต้องลดลงไปเรื่อยๆ เพราะเราคงไม่มีวิกฤตการเงินอยู่บ่อยๆ ดังนั้น เราจึงต้องปรับการทำงานให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เพื่อความยั่งยืนของ บสส.ที่ไม่ใช่จะทำหน้าที่แค่บริหารหนี้ให้หมดแล้วตั้งปิดตัวไป”
นายชูเกียรติ กล่าวว่า ในขั้นต้น บสส.ได้หารือกับกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการจัดการหนี้ด้อยคุณภาพของ 2 แบงก์รัฐที่มีปัญหาอยู่ได้ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ (เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการซื้อหนี้มาบริหาร หรือการเป็นที่ปรึกษาบริหารนี้ ซึ่งทางกระทรวงการคลังจะต้องรอให้การคัดสรรผู้บริหารเอสเอ็มอีแบงก์เสร็จสิ้นก่อนจึงจะพิจารณาในเรื่องนี้ต่อไป