“โต้ง” กร้าวฟันตัวการทำหนี้เน่าไอแบงก์ ยัน “ออมสิน” ปล่อยกู้ “พีซีซี” สร้างโรงพักไม่ใช่ต้นเหตุปัญหา

“กิตติรัตน์” คลายกังวล “แบงก์รัฐล้ม” มั่นใจ “ไอแบงก์” มาถูกทางแล้ว ชี้การเพิ่มทุนที่ยื่นขอมา 2,000 ล้านบาท ถือเป็นวงเงินสูงสุด แต่ต้องดูว่าคลังจะเพิ่มทุนให้จริงเท่าใด ส่วนปัญหาหนี้เน่าที่เกิดขึ้นยังไม่ได้รับผลสอบจาก ธปท. ลั่นไม่ว่าจะโยงถึงใคร และมีรายชื่อที่ชัดเจนก็พร้อมที่จะฟันทันที ไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น ส่วนกรณีออมสินปล่อยกู้ “พีซีซี” สร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ เป็นเรื่องของบอร์ด ย้ำสินเชื่อเพื่อโครงการรัฐความเสี่ยงต่ำ แต่ปัญหาเกิดขึ้นมาจากประวัติส่วนตัวของบริษัทผู้รับเหมา ไม่ใช่ปัญหาของรัฐบาลที่เป็นผู้ว่าจ้าง

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้รับแผนการฟื้นฟูกิจการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เรียบร้อยแล้ว และมั่นใจว่าเป็นทิศทางที่ถูกต้อง โดยเงินเพิ่มทุนที่ยื่นขอมา 2,000 ล้านบาทนั้น เป็นวงเงินสูงสุด แต่ก็ต้องมาพิจารณาว่า กระทรวงการคลังจะเพิ่มทุนให้จริงเท่าใด เพราะมีวงเงินที่ตั้งไว้ในงบประมาณเพื่อการเพิ่มทุนให้แก่ธนาคารของรัฐที่สามารถจัดสรรเป็นเงินเพิ่มทุนให้ได้อยู่แล้ว ส่วนปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่อยู่ในระดับสูงนั้น คงต้องใช้เวลาแก้ปัญหา คงไม่สามารถแก้ไขให้ลดลงได้ทันที เพราะสะสมมานานหลายปี

“ผมลดความกังวลในปัญหาของไอแบงก์ลง เพราะเห็นว่าแผนฟื้นฟูที่เสนอมาถูกทาง เป็นทิศทางที่ดี เหลือเพียงการเดินหน้าปฏิบัติตามแผน เพื่อแก้ไขปัญหาเอ็นพีแอลให้ทยอยลดลง” นายกิตติรัตน์ กล่าวและว่า ยังไม่ได้รับผลสอบการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ไม่ว่าจะโยงถึงใคร และมีรายชื่อที่ชัดเจนก็พร้อมที่จะดำเนินการตามขั้นตอน จะไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น

ส่วนกรณีการปล่อยสินเชื่อของธนาคารออมสิน ให้แก่บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จํากัด เพื่อการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่งทั่วประเทศ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการและคณะกรรมการ (บอร์ด) ธนาคารฯ ดำเนินการตามกระบวนการก่อนที่จะเข้าไปดูกระบวนการในการปล่อยสินเชื่อ

นายกิตติรัตน์ ยอมรับว่า ปกติการปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้รับเหมาก่อสร้างในงานของรัฐบาลจะมีความเสี่ยงต่ำอยู่แล้ว แต่ที่มีปัญหาเกิดขึ้นมาจากประวัติส่วนตัวของบริษัทผู้รับเหมา ไม่ใช่ปัญหาของรัฐบาลที่เป็นผู้ว่าจ้าง จึงต้องไปดูว่า ในกระบวนการอนุมัติสินเชื่อได้พิจารณาไปถึงประวัติของผู้ยื่นขอกู้ด้วยหรือไม่

“เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็ต้องมาดูว่า กระบวนการปล่อยสินเชื่อถูกต้องโปร่งใสหรือไม่ ซึ่งเข้าใจว่า ฝ่ายจัดการออมสินเองได้เข้าไปดูเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นที่มีการเบิกจ่ายเงินแล้ว หากมีความชัดเจนก็คงรายงานกลับมาที่กระทรวงฯ ผมเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว” นายกิตติรัตน์กล่าวสรุป