สะดุดชั่วคราว
หลังปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ นักลงทุนต่างตั้งความหวังเปิดตลาดรับสัปดาห์ใหม่ดัชนีคงพุ่งทะยานทะลุ 1,600 จุดอย่างง่ายดาย เพราะต่างชาติกลับมาลุยซื้อหนัก และข่าวร้ายไม่มี แต่ก็มีปัจจัยลบนอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้น หลังจากที่ประเทศไซปรัสประกาศขอความช่วยเหลือทางการเงิน ทำให้วิกฤตหนี้ปุทะขึ้นมาอีก ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่ต้องสะดุดลง แต่อาจเป็นการสะดุดลงชั่วคราวเท่านั้น
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,591.65 จุด ลดลง 6.48 จุด มูลค่าซื้อขาย 65,277 ล้านบาท ต่างชาติขาย 1,609 ล้านบาท
การปรับตัวลงของตลาดถือว่าสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับย่านเอเชีย ซึ่งหลายตลาดลงกว่า 2% ซึ่งอาจเป็นเพราะนักลงทุนไทยยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ ไม่ตื่นตระหนกต่อปัญหาของไซปรัส โดยได้เข้ามาช้อนซื้อกันทำให้มีแรงต้านการขาย ส่วนนักลงทุนต่างชาติไม่แน่ใจว่ามีความกังวลในปัญหาใหม่ของกลุ่มยุรปหรือไม่ ทำให้กลับมาขายอีกครั้งทั้งที่เพิ่งเริ่มซื้อหนักเมื่อวันศุกร์
อย่างไรตาม วิกฤตของไซปรัสกลายเป็นตัวแปรใหม่ที่นักลงทุนต้องเฝ้าจับตา เพราะถ้าลุกลามจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก รวมทั้งนักลงทุนไทยด้วย และอาจทำให้แนวโน้มตลาดเปลี่ยนไปจากขาขึ้นเต็มตัวกลายเป็นความเปราะบางต่อการปรับฐาน ในระยะสั้นจึงต้องชะลอการลงทุนเพื่อประเมินสถานารณ์
สำหรับหุ้นร้อนก็ยังจุดพลุกันไม่เลิก ได้เห็นลากชนเพดาน3 0% กันทุกวัน แต่ ก.ล.ต.ก็กังวลกับหุ้นร้อนมาก และได้ออกมาเตือนการลงทุนอีกครั้งโดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ๆ ซึ่งอาจตกเป็นเหยื่อกลุ่มปั่นหุ้นได้ง่ายๆ
หลังปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ นักลงทุนต่างตั้งความหวังเปิดตลาดรับสัปดาห์ใหม่ดัชนีคงพุ่งทะยานทะลุ 1,600 จุดอย่างง่ายดาย เพราะต่างชาติกลับมาลุยซื้อหนัก และข่าวร้ายไม่มี แต่ก็มีปัจจัยลบนอกเหนือความคาดหมายเกิดขึ้น หลังจากที่ประเทศไซปรัสประกาศขอความช่วยเหลือทางการเงิน ทำให้วิกฤตหนี้ปุทะขึ้นมาอีก ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่ต้องสะดุดลง แต่อาจเป็นการสะดุดลงชั่วคราวเท่านั้น
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,591.65 จุด ลดลง 6.48 จุด มูลค่าซื้อขาย 65,277 ล้านบาท ต่างชาติขาย 1,609 ล้านบาท
การปรับตัวลงของตลาดถือว่าสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับย่านเอเชีย ซึ่งหลายตลาดลงกว่า 2% ซึ่งอาจเป็นเพราะนักลงทุนไทยยังเต็มไปด้วยความมั่นใจ ไม่ตื่นตระหนกต่อปัญหาของไซปรัส โดยได้เข้ามาช้อนซื้อกันทำให้มีแรงต้านการขาย ส่วนนักลงทุนต่างชาติไม่แน่ใจว่ามีความกังวลในปัญหาใหม่ของกลุ่มยุรปหรือไม่ ทำให้กลับมาขายอีกครั้งทั้งที่เพิ่งเริ่มซื้อหนักเมื่อวันศุกร์
อย่างไรตาม วิกฤตของไซปรัสกลายเป็นตัวแปรใหม่ที่นักลงทุนต้องเฝ้าจับตา เพราะถ้าลุกลามจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก รวมทั้งนักลงทุนไทยด้วย และอาจทำให้แนวโน้มตลาดเปลี่ยนไปจากขาขึ้นเต็มตัวกลายเป็นความเปราะบางต่อการปรับฐาน ในระยะสั้นจึงต้องชะลอการลงทุนเพื่อประเมินสถานารณ์
สำหรับหุ้นร้อนก็ยังจุดพลุกันไม่เลิก ได้เห็นลากชนเพดาน3 0% กันทุกวัน แต่ ก.ล.ต.ก็กังวลกับหุ้นร้อนมาก และได้ออกมาเตือนการลงทุนอีกครั้งโดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ๆ ซึ่งอาจตกเป็นเหยื่อกลุ่มปั่นหุ้นได้ง่ายๆ
