หุ้นไทยบวกต่อ 12 จุด วอลุ่มเทรด 5.7 หมื่นล้าน รับเม็ดเงินที่ยังไหลเข้าในภูมิภาค หลังได้รับปัจจัยบวกสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มการจ้างงาน โบรกฯแนะจับตาการประชุมกนง. ส่วน “กิตติรัตน์” มั่นใจตลาดหลักทรัพย์ - ก.ล.ต.คุมหุ้นปั่นได้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (14ก.พ.) ยังปรับตัวอยู่ในแดนบวกต่อเนื่อง โดยปิดที่ 1,526.74 จุด เพิ่มขึ้น 12.63 จุด หรือ 0.83% มูลค่าการซื้อขาย 57,782.92 ล้านบาท ภาพรวม ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค เนื่องจากรับผลจาก Flow ไหลเข้ามา ทั้งนี้ระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,527.48 จุด ต่ำสุดที่ 1,516.97 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 413 หลักทรัพย์ ลดลง 229 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 168 หลักทรัพย์
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย2,443.49 ล้านบาท ปิดที่ 362.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท BLAND มูลค่าการซื้อขาย 2,285.47 ล้านบาท ปิดที่ 1.99 บาท ลดลง 0.05 บาท BTS มูลค่าการซื้อขาย 2,233.21 ล้านบาท ปิดที่ 8.15 บาท ลดลง 0.25 บาท PPP มูลค่าการซื้อขาย 1,909.44 ล้านบาท ปิดที่ 12.30 บาท จากราคาขาย IPO 5.00 บาท และ THCOM มูลค่าการซื้อขาย 1,690.03 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท
ส่วนการซื้อขายสุทธิแยกตามประเภทนักลงทุนวานนี้ พบว่า มีเพียงนักลงทุนสถาบันที่ซื้อสุทธิ 797.82 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไป นักลงทุนต่างประเทศ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 702.73 ล้านบาท 60.85 ล้านบาท และ 34.24 ล้านบาท ตามลำดับ
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพบ์ บล.เคทีบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก เนื่องจากได้แรงหนุนจากที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯออกมาแถลงว่าจะยังเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยจะมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกว่า20% ทำให้มีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีโอกาสฟื้นตัวในปีนี้มีมากขึ้น
สำหรับตลาดหุ้นไทย ก็ได้รับแรงหนุนจากที่นักลงทุนต่างชาติได้พลิกกลับมาซื้อสุทธิ ซึ่งทำให้ตลาดฯมีโมเมนตัมที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปได้
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก มองว่าเป็นผลจาก Flow ที่ไหลเข้ามาเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างเฝ้ารอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ โดยมีความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
สำหรับ แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(15 ก.พ.) ดัชนีคงจะอยู่ในลักษณะของการผันผวน โดยมีแนวรับ 1,516 จุด แนวต้าน 1,550 จุด
ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การปรับเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ไม่ถือว่าร้อนแรงเกินไป เพราะเป็นการปรับเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มของเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่วนกรณีที่มีการปั่นหุ้นเพื่อสร้างราคานั้น ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็มีมาตรการในการรับมือกับพวกหุ้นปั่นอยู่แล้ว
ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีทิศทางดีขึ้น ซึ่งเกิดจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล และการลงทุนที่จะตามมาอีกมากมายในปีนี้ เช่น การลงทุนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 350,000 ล้านบาท และพ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อฟื้นฟูประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ การที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีผลประกอบการที่ดีขึ้น ยังทำให้กำไรต่อหุ้นปรับตัวสูงขึ้น จึงได้เห็นหุ้นของบริษัทต่างๆ ปรับตัวตามทิศทางเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (14ก.พ.) ยังปรับตัวอยู่ในแดนบวกต่อเนื่อง โดยปิดที่ 1,526.74 จุด เพิ่มขึ้น 12.63 จุด หรือ 0.83% มูลค่าการซื้อขาย 57,782.92 ล้านบาท ภาพรวม ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค เนื่องจากรับผลจาก Flow ไหลเข้ามา ทั้งนี้ระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,527.48 จุด ต่ำสุดที่ 1,516.97 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 413 หลักทรัพย์ ลดลง 229 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 168 หลักทรัพย์
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย2,443.49 ล้านบาท ปิดที่ 362.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท BLAND มูลค่าการซื้อขาย 2,285.47 ล้านบาท ปิดที่ 1.99 บาท ลดลง 0.05 บาท BTS มูลค่าการซื้อขาย 2,233.21 ล้านบาท ปิดที่ 8.15 บาท ลดลง 0.25 บาท PPP มูลค่าการซื้อขาย 1,909.44 ล้านบาท ปิดที่ 12.30 บาท จากราคาขาย IPO 5.00 บาท และ THCOM มูลค่าการซื้อขาย 1,690.03 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท
ส่วนการซื้อขายสุทธิแยกตามประเภทนักลงทุนวานนี้ พบว่า มีเพียงนักลงทุนสถาบันที่ซื้อสุทธิ 797.82 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไป นักลงทุนต่างประเทศ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 702.73 ล้านบาท 60.85 ล้านบาท และ 34.24 ล้านบาท ตามลำดับ
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพบ์ บล.เคทีบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก เนื่องจากได้แรงหนุนจากที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯออกมาแถลงว่าจะยังเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการจ้างงานเพิ่มขึ้น โดยจะมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกว่า20% ทำให้มีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯมีโอกาสฟื้นตัวในปีนี้มีมากขึ้น
สำหรับตลาดหุ้นไทย ก็ได้รับแรงหนุนจากที่นักลงทุนต่างชาติได้พลิกกลับมาซื้อสุทธิ ซึ่งทำให้ตลาดฯมีโมเมนตัมที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปได้
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก มองว่าเป็นผลจาก Flow ที่ไหลเข้ามาเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างเฝ้ารอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ โดยมีความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
สำหรับ แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(15 ก.พ.) ดัชนีคงจะอยู่ในลักษณะของการผันผวน โดยมีแนวรับ 1,516 จุด แนวต้าน 1,550 จุด
ด้าน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การปรับเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา ไม่ถือว่าร้อนแรงเกินไป เพราะเป็นการปรับเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มของเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่วนกรณีที่มีการปั่นหุ้นเพื่อสร้างราคานั้น ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็มีมาตรการในการรับมือกับพวกหุ้นปั่นอยู่แล้ว
ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีทิศทางดีขึ้น ซึ่งเกิดจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล และการลงทุนที่จะตามมาอีกมากมายในปีนี้ เช่น การลงทุนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 350,000 ล้านบาท และพ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อฟื้นฟูประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ การที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีผลประกอบการที่ดีขึ้น ยังทำให้กำไรต่อหุ้นปรับตัวสูงขึ้น จึงได้เห็นหุ้นของบริษัทต่างๆ ปรับตัวตามทิศทางเศรษฐกิจ