ไรมอนแลนด์ฯ ภายใต้บังเหียน “ตระกูลลี” กลุ่มธุรกิจสิงคโปร์ เผยทิศทางการดำเนินธุรกิจเน้นลงทุนพัฒนาอสังหาฯ ไฮ-เอนด์ คอนโดฯ ยังเป็นสินค้าสร้างรายได้หลัก พร้อมต่อยอดธุรกิจเช่าพื้นที่ร้านค้า-อาหารและเครื่องเดิม ภายใต้การบริหาร “Klapson” ไตรมาส 2 ลุยผุดเดอะลอฟท์ เอกมัย คอนโดฯ หรูมูลค่า 2,100 ล้านบาท สร้างความต่อเนื่องรายได้อนาคต ด้าน “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” ระบุไม่มีหุ้นในบริษัทฯ แต่ได้นั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการเข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML ในสัดส่วน 24.97% ของกลุ่มตระกูลลี ซึ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และโรงแรมชั้นนำจากประเทศสิงคโปร์ ได้มีการปรับโครงสร้างผู้บริหารภายในองค์กรของ ไรมอน แลนด์ ใหม่ โดยมีการแต่งตั้งกรรมการใหม่ 5 คน ประกอบด้วย นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นประธานกรรมการบริษัท นายไลโอเนล ลี เป็นกรรมการ น.ส.นุช กัลยาวงศา ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน นายเอเดรียน ลี นายจอห์นสัน ตัน ชิน กวัง เป็นกรรมการ
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะประธานกรรมการบริหารว่า “แม้ไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทไรมอนแลนด์ฯ แต่ในส่วนของงานบริหารนั้นยังคงให้การดูแลอย่างใกล้ชิด และติดตามให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ ทั้งนี้ มั่นใจว่าด้วยประสบการณ์การบริหารธุรกิจของกลุ่มตระกูลลี ซึ่งมีประสบการณ์ และประสบความสำเร็จอย่างมากในสิงคโปร์ จะสามารถนำมาพัฒนาธุรกิจ และการตลาดของไรมอนแลนด์ และช่วยยกระดับตลาดอสังหาฯ ในประเทศได้อย่างดี”
นายไลโอเนล ลี กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของไรมอนแลนด์ ภายใต้การบริหารงานของตระกูลลี ยังคงเน้นการพัฒนาอสังหาฯ ระดับไฮเอนด์ โดยเฉพาะการพัฒนาคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นรายได้หลัก นอกจากนี้ จะเน้นการสร้างแหล่งรายได้ใหม่ๆ ในหลายรูปแบบ เช่น ธุรกิจปล่อยเช่าพื้นที่อาคารพาณิชย์ งานบริหารโรงแรม อพาร์ตเมนต์ ภายใต้แบรนด์ Klapsons ซึ่งประสบความสำเร็จในในสิงคโปร์อย่างมาก รวมถึงการสร้างรายได้จากร้านค้าประเภทอาหารและเครื่องเดิม ซึ่งเป็นธุรกิจที่กลุ่มตระกูลลีมีประสบการณ์อยู่แล้ว
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการใหม่ในปี 56 เบื้องต้น จะมีการเปิดตัว และดำเนินการขายห้องชุด (พรีเซลล์) ในโครงการคอนโดมิเนียม เดอะลอฟท์ เอกมัย เป็นอาคารสูง 28 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 264 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,100 ล้านบาท โดยมีพื้นที่พัฒนาโครงการกว่า 2 ไร่ ส่วนโครงการอื่นๆ นั้น ยังอยู่ระหว่างการจัดหาที่ดินและการสรุปแผนการลงทุน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะที่รายได้ในปีนี้คาดว่าจะมาจากโครงการเดอะริเวอร์ และ 185 ราชดำริ ซึ่งจะทำให้ปีนี้บริษัทยังมีอัตรารายได้เติบโตจากปีที่ผ่านมา
นายอูแบร์ วิริออท กรรมการผู้อำนวยการ กล่าวว่า ปัจจุบัน บริษัทมียอดรอบันทึกเป็นรายได้ (แบ็กล็อก) 16,294 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และเปิดขาย รวม 28,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากยอดขายจากโครงการเดอะริเวอร์ 40% และโครงการ 185 ราชดำริ 39% ที่เหลือจากโครงการ Zire wongamat พัทยา 12% โครงการ Unixx พัทยาใต้ 9% โครงการ Nortpoint 9%
สำหรับในปี2555 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 5,519 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ซึ่งมีรายได้รวม 1,228 ล้านบาท 4,283 ล้านบาท หรือมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 237% โดยมีกำไรสุทธิ 496 ล้านบาท
