ตลาด TFEX คึกคัก เพียงแค่ 1 เดือนแรกปี 56 เทรดกระฉูด 6 หมื่นสัญญาต่อวัน ขณะที่รายตัวฮิตสูงถึง 3.3 หมื่นสัญญา
นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) หรือ TFEX เปิดเผยว่า เพียงเดือนเดียวของปี 2556 จำนวนสัญญาซื้อขายสินค้าในตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 66,763 สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ยของทั้งปี 2555 อยู่ที่ 43,823 สัญญา
ทั้งนี้ พบว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงหุ้นรายตัว (ซิงเกิลสต๊อก) มีการซื้อขายเฉลี่ยที่ 33,815 สัญญาต่อวัน สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 50% ของการซื้อขายรวม คิดเป็นการเติบโตหลายเท่าตัวจากปี 2555 มีการซื้อขายเฉลี่ยเพียง 8,849 สัญญา
ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET50 ฟิวเจอร์สนั้น มีการซื้อขาย 17,683 สัญญาต่อวัน สัดส่วนลดลงเหลือ 26.5% เช่นเดียวกับโกลด์ฟิวเจอร์ส สัดส่วนลดลงเหลือประมาณ 20% ด้วยจำนวนสัญญาซื้อขาย 13,313 สัญญาต่อวัน
“ซิงเกิลสต๊อกมีการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น เพราะสภาวะตลาดหุ้นดี นักลงทุนจึงเข้ามาซื้อเพื่อต้องการทำกำไรสองตลาด และเท่าที่ได้จับตาพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนในระยะ 1-2 เดือนที่ผ่านมา ซื้อแล้วไม่ได้ขายทันที แต่ต้องการรอเพราะมีความเชื่อว่าในระยะกลางราคาหุ้นจะขึ้นไปอีก” นางเกศรากล่าว
นอกจากนี้ การซื้อขายในซิงเกิลสต๊อกจำนวน 90% เกิดจากหุ้น 10 ตัว คือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิงส์ (BTS) บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ธนาคารทหารไทย (TMB) ธนาคารกรุงไทย (KTB) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QH) บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) และบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA)
ในเดือน มี.ค.นี้ ทาง TFEX เตรียมที่จะเพิ่มจำนวนหุ้นอ้างอิงในซิงเกิลสต๊อกอีก 20 ตัว ทำให้เพิ่มเป็น 50 ตัว โดยจะเลือกจากหุ้นที่คำนวณใน SET100 แต่จะต้องมีมูลค่าตลาด (มาร์เกตแคป) เกิน 1 หมื่นล้านบาทขึ้นไป และจะพิจารณาเลือกหุ้นที่มีการซื้อขายหนาแน่น ทำให้ราคาหุ้นมีค่าความเหวี่ยงที่สูง และจะขยายหุ้นอ้างอิงในกลุ่มโรงพยาบาลและโรงแรมด้วย จะทำให้หุ้นอ้างอิงในซิงเกิลสต๊อกครอบคลุมในหลากหลายหมวดธุรกิจ รวมเป็น 12 หมวด จากเดิม 10 หมวดสำคัญ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดให้นักลงทุนที่จะสั่งซื้อหุ้นจำนวน 7 บริษัทต้องวางเงินสดทั้ง 100% ก่อน (แคชบาลานซ์) ระหว่างวันที่ 11 ก.พ.-1 มี.ค.2556 ได้แก่ หุ้นบริษัท ช.การช่าง (CK) บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEN) บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC) บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) และบริษัท ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่นส์ (TH)
บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) รายงานผลการดำเนินงานปี 2555 มีกำไรสุทธิ 11,278 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 4.76 บาท ลดลงประมาณ 4.52% จากปี 2554 กำไรสุทธิ 11,812 ล้านบาท หรือ 4.99 บาท
คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 1.66 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 27 ก.พ.2556 โดยจ่ายเงินจากกำไรสะสม
ทั้งนี้ รวมทั้งปีบริษัทจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 5.06 บาท สูงกว่ากำไรต่อหุ้น 4.76 บาท ในปี 2555 และสูงกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ จ่ายไม่ต่ำกว่า 80% ของกำไรสุทธิของบริษัท ด้านตลาดหุ้นปรับตัวลง 2.51 จุด ดัชนีปิดที่ 1,497.30 จุด โดยต่างชาติขายต่อ 2,569 ล้านบาท