ฟิทช์ เรทติ้งส์ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิธนาคารกสิกรไทยที่ระดับ BBB+ โดยมูลค่าหุ้นกู้ 500 ล้านเหรียญ ครบกำหนด มี.ค.61 เป็นหุ้นกู้ภายใต้โครงการ EMTN ออกโดยสาขากสิกรฯ ในฮ่องกง
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ (senior notes) ไม่มีหลักประกันของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) ซึ่งมีอันดับเครดิต “BBB+”/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ที่ระดับ “BBB+” โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีวันครบกำหนดชำระในเดือนมีนาคม 2561 และหุ้นกู้ดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการ Euro Medium Term Note (EMTN) ซึ่งมีมูลค่ารวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และออกโดยสาขาของ KBANK ในฮ่องกง เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ได้ถูกนำไปใช้ในการดำเนินกิจการทั่วไปของธนาคาร
ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิอยู่ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของ KBANK ที่ “BBB+” เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีหลักประกันของธนาคาร
นอกจากนี้ อันดับเครดิตของธนาคารสะท้อนถึงระดับเงินกองทุน และความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับดี คุณภาพสินทรัพย์ และสำรองหนี้สูญที่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และการมีเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ในประเทศที่แข็งแกร่ง ฟิทช์ฯ เชื่อว่าฐานะทางการเงินโดยรวมของธนาคารน่าจะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของคุณภาพสินเชื่อได้ ซึ่งสะท้อนอยู่ในแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต เป็นกรณีการกระจุกตัวของสินเชื่อที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือการเติบโตอย่างรวดเร็วของสินเชื่อในระดับที่อาจส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ หรือสภาพคล่องของธนาคารมีการปรับตัวอ่อนแอลง อาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตสากลของธนาคาร การปรับลดเพดานอันดับเครดิต (Country Ceiling) ของประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ ‘BBB+’ อาจส่งผลให้อันดับเครดิตสากลของธนาคารถูกปรับลดอันดับลง เนื่องจากอันดับเครดิตสากลของธนาคารถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิตของประเทศ
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ (senior notes) ไม่มีหลักประกันของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) ซึ่งมีอันดับเครดิต “BBB+”/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ที่ระดับ “BBB+” โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีวันครบกำหนดชำระในเดือนมีนาคม 2561 และหุ้นกู้ดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการ Euro Medium Term Note (EMTN) ซึ่งมีมูลค่ารวม 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และออกโดยสาขาของ KBANK ในฮ่องกง เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ได้ถูกนำไปใช้ในการดำเนินกิจการทั่วไปของธนาคาร
ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิอยู่ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของ KBANK ที่ “BBB+” เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีหลักประกันของธนาคาร
นอกจากนี้ อันดับเครดิตของธนาคารสะท้อนถึงระดับเงินกองทุน และความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับดี คุณภาพสินทรัพย์ และสำรองหนี้สูญที่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และการมีเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ในประเทศที่แข็งแกร่ง ฟิทช์ฯ เชื่อว่าฐานะทางการเงินโดยรวมของธนาคารน่าจะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของคุณภาพสินเชื่อได้ ซึ่งสะท้อนอยู่ในแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต เป็นกรณีการกระจุกตัวของสินเชื่อที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือการเติบโตอย่างรวดเร็วของสินเชื่อในระดับที่อาจส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ หรือสภาพคล่องของธนาคารมีการปรับตัวอ่อนแอลง อาจส่งผลให้มีการปรับลดอันดับเครดิตสากลของธนาคาร การปรับลดเพดานอันดับเครดิต (Country Ceiling) ของประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ ‘BBB+’ อาจส่งผลให้อันดับเครดิตสากลของธนาคารถูกปรับลดอันดับลง เนื่องจากอันดับเครดิตสากลของธนาคารถูกจำกัดโดยเพดานอันดับเครดิตของประเทศ