ฟิทช์ เรทติ้งส์ ให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ไทยพาณิชย์ วงเงิน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะออกผ่านสาขาที่ฮ่องกงที่ระดับ BBB+ ระบุฐานะทางการเงินแข็งแกร่งที่จะรองรับความเสี่ยงได้
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ (senior notes) ที่จะออกโดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB (อันดับเครดิต “BBB+”/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ที่ระดับ “BBB+”
ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวจะออกโดยสาขาของ SCB ในฮ่องกง และจะถูกรวมกับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิจำนวน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ธนาคารได้ออกผ่านสาขาฮ่องกงไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2555 ภายใต้โครงการ Medium Term Note (MTN) มูลค่าไม่เกิน 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นกู้ชุดที่ออกไปแล้ว และหุ้นกู้ชุดที่จะออกใหม่ จะถูกนำมารวมเป็นหุ้นกู้ชุดเดียวกันซึ่งจะครบกำหนดชำระในปี 2560
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิอยู่ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของ SCB ที่ “BBB+” โดยอันดับเครดิตของธนาคารสะท้อนถึงระดับเงินกองทุนและความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับดี คุณภาพสินทรัพย์และสำรองหนี้สูญที่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และการมีเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ในประเทศที่แข็งแกร่ง ฟิทช์เชื่อว่า ฐานะทางการเงินโดยรวมของธนาคารน่าจะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของคุณภาพสินเชื่อได้ ซึ่งสะท้อนอยู่ในแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ (senior notes) ที่จะออกโดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB (อันดับเครดิต “BBB+”/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ที่ระดับ “BBB+”
ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวจะออกโดยสาขาของ SCB ในฮ่องกง และจะถูกรวมกับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิจำนวน 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ธนาคารได้ออกผ่านสาขาฮ่องกงไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2555 ภายใต้โครงการ Medium Term Note (MTN) มูลค่าไม่เกิน 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หุ้นกู้ชุดที่ออกไปแล้ว และหุ้นกู้ชุดที่จะออกใหม่ จะถูกนำมารวมเป็นหุ้นกู้ชุดเดียวกันซึ่งจะครบกำหนดชำระในปี 2560
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิอยู่ที่ระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) ของ SCB ที่ “BBB+” โดยอันดับเครดิตของธนาคารสะท้อนถึงระดับเงินกองทุนและความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับดี คุณภาพสินทรัพย์และสำรองหนี้สูญที่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และการมีเครือข่ายธุรกิจ (franchise) ในประเทศที่แข็งแกร่ง ฟิทช์เชื่อว่า ฐานะทางการเงินโดยรวมของธนาคารน่าจะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของคุณภาพสินเชื่อได้ ซึ่งสะท้อนอยู่ในแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ