xs
xsm
sm
md
lg

งานก่อสร้างภาครัฐ-เอกชนพุ่ง PPS เชื่อดันรายได้ปี 56 โต 10%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รัฐบาลเทงบมหาศาลลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ ขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ระบบชลประทาน ระบบคมนาคม สนามบิน อสังหาฯ แห่ผุดโครงการทั้งแนวสูง-แนวราบ ดันตลาดอุตสาหกรรมการก่อสร้างขยายตัวส่งผลดีต่อธุรกิจวิศวกรบริหารงาน และควบคุมงานก่อสร้างขยายตัวตาม คาดปี 56 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า10% ด้าน PPS มั่นใจงานไหลเข้าดันรายได้ปี 56 โตไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมตั้งเป้าปีนี้รายได้รวม 300 ล้านบาท ล่าสุด เตรียมก่อตั้งบริษัท “สวอน แอนด์ แมคคลาเรน” บริษัทร่วมทุนต่างประเทศรับงานออกแบบโครงการทั้งใน และต่างประเทศรองรับงานใหม่หลังเปิด AEC

นายธัช ธงภักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS กล่าวว่า การขยายตัวของการลงทุนจากภาครัฐในโครงการระบบอินฟราสตรักเจอร์ หรือโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบคมนาคม ชลประธาน การก่อสร้างสนามบิน และระบบรถไฟฟ้า รวมถึงการลงทุนของภาคเอกชนในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้างอย่างมาก โดยเฉพาะการขยายการลงทุนในส่วนของภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และผลักดันให้เกิดการขยายตัวในตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้าง

ทั้งนี้ PPS ในฐานะผู้ให้บริการงานบริหารงานก่อสร้าง และควบคุมงานก่อสร้างโครงการ ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมก่อสร้าง มองว่าการขยายตัวของภาคธุรกิจก่อสร้างในปัจจุบันต่อเนื่องไปในอนาคตอีก 5-7 ปีจากนี้ จะส่งผลดีต่อความต้องการวิศวกรรมบริหารโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 56 นี้การขยายตัวของภาคก่อสร้างจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจบริหารงานก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 10%

โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้รวมจาก PPS และบริษัทลูก ประกอบด้วย พีพีเอส ดีไชน์ จำกัด ซึ่งให้บริการทางด้านการออกแบบโครงการ และบริษัท สวอน แอนด์ แมคคลาเรน (ประเทศไทย) บริษัทร่วมทุนกับบริษัทก่อสร้างจากต่างประเทศซึ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ในปีนี้ เพื่อรับงานออกแบบโครงการทั้งใน และต่างประเทศรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน หรือ AEC จะมีรายได้รวมที่ 300 ล้านบาท โตจากปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 270 ล้านบาท ประมาณ 10%

“รายได้ดังกล่าวจะมาจากบริษัทแม่ PPS 270 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจากมาจากการรับรู้รายได้จากสต๊อกงานเก่าในมือที่จะส่งมอบงานในปี 56 นี้ประมาณ 50% จากจำนวนงานในสต๊อกรอรับรู้รายได้ในมือรวม 400 ล้านบาท และจะมาจากบริษัทลูก พีพีเอส ดีไชน์ ประมาณ 20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 55 ที่มีรายได้ที่ 4-5 ล้านบาท ประมาณ 3 เท่า และจะมาจากบริษัท สวอนฯ ประมาณ 10 ล้านบาท”

นายธัช กล่าวว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจของ PPS นั้นจะเน้นการรักษาระดับการรับงานบริหาร และคุมงานก่อสร้างโครงการต่อปีที่ 10 โครงการ โดยในปีนี้บริษัทมีการเซ็นสัญญาบริหาร และคุมงานก่อสร้างโครงการใหม่เข้ามาแล้ว 3 โครงการ ประกอบด้วย งานก่อสร้างโครงการห้างสรรพสินค้า เวสท์เกต บางใหญ่ของ กลุ่มเซ็นทรั่ลพัฒนา ซึ่งมีมูลค่างาน 50-60 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียมโครงการย่อยบริษัท พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) มูลค่า 50 ล้านบาท และโครงการตรวจสอบงานด้านวิศวกรรม โครงการทางด่วนศรีรัตน์ส่วนขยาย มูลค่า 26 ล้านบาท

ส่วนบริษัท พีพีเอส ดีไชน์ จำกัด ซึ่งในปีที่ผ่านมามีรายได้ 4-5 ล้านบาทนั้น ปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้เข้ามา 20 ล้านบาท โดยขณะนี้ได้มีการรับงานเข้ามาแล้วรวม 3 โครงการคิดเป็นมูลค่างานรวม 2.8 ล้านบาท ประกอบด้วย งานออกแบบโครงการคอนโดมิเนียมสูงไม่เกิน 6 ชั้น โครงการบ้านสำเร็จรูป และโกดังสินค้า ขณะที่บริษัท สวอน แอนด์ แมคคลาเรน (ประเทศไทย) นั้น แม้ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการจดทะเบียนแต่ก็เริ่มเจรจากับลูกค้าต่างชาติ เพื่อรับงานออกแบบให้แก่ลูกค้าบ้างแล้ว คาดว่าในปีนี้จะมีงานเข้ามาในมืออย่างน้อยมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น