xs
xsm
sm
md
lg

“โต้ง” กู้ 2 ล้านล้านเข้า ครม.อังคารนี้ ด้าน สบน.เตรียมพร้อมแผนดำเนินการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระทรวงการคลังเร่งเดินหน้า พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้านบาท พร้อมแนบท้ายรายละเอียดโครงการเสนอ “กิตติรัตน์” ชง ครม.ไฟเขียว 5 ก.พ.นี้ ด้าน สบน.เตรียมพร้อมแผนกู้เงิน มั่นใจเริ่มกู้เงินได้ปลายปีนี้ เฉลี่ยปีละ 2-3 แสนล้านบาท พร้อมหนุนทำพีพีพี 30% ลดภาระเงินกู้ให้รัฐบาล

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พ.ศ. ... วงเงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ส่งเรื่องไปรอบรรจุเข้าวาระสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว คาดว่าน่าจะเข้าสูการพิจารณาได้วันที่ 5 ก.พ.นี้ โดยรายละเอียดโครงการกู้เงินทั้งหมดนั้นได้แนบท้ายเข้าไปพร้อมกับร่างกฎหมายด้วย สำหรับโครงการหลักยังมีวงเงินที่ 2 ล้านล้านบาท ส่วนโครงการสำรองที่เตรียมไว้ก็มีวงเงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท เนื่องจากหากโครงการหลักไม่สามารถดำเนินการได้ทันก็สามารถเลื่อนโครงการสำรองขึ้นมาแทนที่ได้ทันที ในระยะเวลา 7 ปีตามที่กฎหมายกำหนด

ในขณะที่โครงการที่บรรจุในแผนการกู้เงินดังกล่าวยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หากเห็นว่าเป็นโครงการที่ไม่จำเป็น หรือมีผลต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ปรับให้เข้ากับแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีแล้วในการสนับสนุนให้แต่ละพื้นที่ หรือจังหวัดมีความชัดเจนในการเป็นศูนย์กลางของระบบขนส่งทางด้านใดๆ เพื่อให้การลงทุนเกิดประโยชน์สูงสุด

ด้าน น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวในส่วนของ สบน.ได้เตรียมแผนการกู้เงินเพื่อรองรับร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวแล้ว ซึ่งหากกฎหมายผ่านกระบวนการพิจารณาของรัฐสภาเสร็จสิ้นแล้วก็จะสามารถดำเนินการกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการได้ โดยอาจจะไม่ทันในปีงบประมาณ 2556 แต่คาดว่าจะกู้ได้ภายในปีปฏิทิน 2556 ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าวจะใช้เงินปีละประมาณ 2-3 แสนล้านบาท การกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการจึงไม่มีผลกระทบต่อสภาพคล่องในประเทศอย่างแน่นอน

“การกู้เพื่อลงทุนในโครงการนี้อาจไม่จำเป็นต้องใช้เงินทั้ง 2 ล้านล้านบาทตามกฎหมายเนื่องจากในขณะนี้ พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน (พีพีพี) ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภา และจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานบางโครงการไม่จำเป็นต้องใช้เงินกู้จากกฎหมายฉบับนี้ แต่ใช้การร่วมทุนกับภาคเอกชน โดย สบน.ประเมินไว้เบื้องต้นคาดว่าจะมีโครงการร่วมทุนประมาณ 30% ของวงเงินลงทุนทั้งหมดซึ่งจะทำให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณลงไปได้มาก” น.ส.จุฬารัตน์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น