“วีรพงษ์” ลั่นไม่กลัวหนี้สาธารณะสูงจากการกู้เงินมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท เพราะสิ่งที่ลงทุนต้องอยู่คู่ประเทศอีกนับร้อยปี ระบุหากหนี้พุ่งเกิน 70% ก็ไม่น่าเป็นห่วง พร้อมยกประเทศพัฒนาแล้วมีภาระหนี้สาธารณะ 100-200% ของจีดีพี เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ยังไม่เห็นต้องน่ากังวล
นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตของประเทศ (กยอ.) กล่าวว่า โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบราง รถไฟฟ้า ถนน ผ่านเงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท แม้จะทำให้เกิดภาระหนี้สาธารณะของประเทศร้อยละ 70 ของจีดีพี ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นการนำเงินมาลงทุนเกิดให้ประโยชน์ กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่อยู่กับประเทศนับร้อยปี
ดังนั้น การวัดภาระหนี้สาธารณะต้องดูให้ชัดเจน เช่น ประเทศพัฒนาแล้ว มีภาระหนี้สาธารณะ 100-200% ของจีดีพี เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐฯ หรือประเทศพัฒนาแล้ว ยังไม่น่าห่วง เพราะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่หากเป็นประเทศที่มีภาระหนี้สาธาณะนำไปใช้ในการบริโภค แม้ภาระหนี้สาธารณะเพียงร้อยละ 30-40 ยังถือว่ามีความเสี่ยง ดังนั้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจึงมีความจำเป็นมาก
ดังนั้น ตนจึงต้องการให้ทุกฝ่ายเมื่อสื่อสารให้ประชาชนรับทราบเกี่ยวกับภาระหนี้สาธารณะของประเทศ ควรพูดให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดพลาด เพราะหากประเทศที่มีฐานะมั่งคงทั้งเกินดุลการค้า เกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ มีสัดส่วนเพียงพอ ภาระหนี้สูงขึ้น เนื่องจากนำไปใช้ประโยชน์จึงไม่น่าห่วงเหมือนกับการนำไปใช้ในทางอื่น และมีปัญหาทางการคลัง
สำหรับการระดมเงินทุนจาก พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท มองว่าควรทำการกู้เงินจากในประเทศเป็นหลัก ไม่ควรออกไปกู้เงินจากต่างประเทศ เพราะการกู้เงินจากเงินฝากของประชาชนในประเทศจะมีความปลอดภัยมากกว่าการกู้เงินจากต่างประเทศและไม่ควรกระทำอย่างเด็ดขาด เพราะขณะนี้เงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาในประเทศจำนวนมากแล้ว