จุฬาฯ เล็งขยายถนนบรรทัดทองเป็น 30 เมตร หวั่นผังเมืองใหม่ห้ามถนน-ซอยแคบสร้างตึกสูง กระทบแผนแม่บทพัฒนาที่ดินจุฬาฯ คาดก่อสร้าง 5 ปีแล้วเสร็จ เผยเตรียมเปิดขายคอนโดฯ โครงการ 2 เคาะราคา 1.69 ล้านบาท/ยูนิต พร้อมแจงขึ้นค่าเช่ากรมพละ จากปีละ 3 ล้าน เป็น 153 ล้าน
รศ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดี และกำกับดูแลสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จุฬาฯ มีแผนที่จะขยายถนนบรรทัดทอง จากถนนพระราม 4 เชื่อมถึงถนนพระราม 1 ให้มีความกว้างเป็น 30 เมตร จากปัจจุบัน ถนนดังกล่าวมีความกว้างประมาณ 15 เมตร เพื่อเป็นการรองรับผังเมืองฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ในเดือนพฤษภาคมของปีนี้
“ไม่รู้ว่าผังเมืองฉบับใหม่ที่จะประกาศใช้ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ สรุปแล้วจะเป็นอย่างไร หากมีการกำหนดกรอบในการพัฒนาอาคารสูงด้วยความกว้างของถนนจริง ที่ดินโซนบรรทัดทองทั้งหมดก็ไม่สามารถพัฒนาได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งยอมรับว่า กระทบต่อแผนแม่บทในการพัฒนาที่ดินของจุฬาฯ ดังนั้น การขยายถนนถือเป็นตัวช่วยที่ดี แต่ก็ต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี” รศ.เพิ่มยศกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผังเมืองใหม่จะไม่กำหนดความกว้างของถนนต่อความสูงของอาคาร จุฬาฯ ก็ยังคงเดินหน้าโครงการขยายถนนเป็น 30 เมตร เพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม นอกจากนี้ ในบริเวณเดียวกันยังมีแผนพัฒนาพื้นที่สีเขียว โดยก่อนหน้านี้ได้เชิญชวนให้ผู้สนใจร่วมประกวดแบบ ซึ่งแบบที่ชนะการประกวดนำเสนอแนวคิด “อุทยานจุฬาลงกรณ์ 100 ปี” เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปี 2560
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้แบบแล้ว จะเสนอให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณา หากได้รับการอนุมัติ จะดำเนินการก่อสร้างทั้งในส่วนของถนน และอุทยาน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5 ปี โดยการขยายถนนให้เป็น 30 เมตร ยังส่งผลบวกต่อการพัฒนาที่ดินย่านนี้ของจุฬาฯ ในระยะยาวด้วย
ส่วนแผนพัฒนาคอนโดมิเนียมขายสิทธิการเช่า 30 ปี โครงการ 2 ย่านบรรทัดทอง คาดว่าปีนี้จะเปิดขายอีก 1 อาคาร ซึ่งจะมีแนวคิดคล้ายกับโครงการแรก ซียู เทอเรซ หรือระเบียงจามจุรี ซึ่งปิดการขายไปแล้ว โดยเป็นอาคารความสูง 26 ชั้น จำนวน 510 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
รศ.เพิ่มยศ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการลดพื้นที่เช่าภายในสนามกีฬาแห่งชาติของกรมพลศึกษา จาก 87 ไร่ เหลือ 76 ไร่ นั้น เนื่องจากจุฬาฯ ต้องการนำพื้นที่ 11 ไร่ ประกอบด้วย สนามจินดารักษ์ อาคารจันทนยิ่งยง อาคารนันทนาการ ลานอเนกประสงค์ และโรงยิมมาบริหารเอง รองรับแผนพัฒนากีฬาของมหาวิทยาลัย ซึ่งยืนยันว่า การขึ้นค่าเช่ากับกรมพลศึกษา จากปีละ 3 ล้านบาท เป็น 153 ล้านบาท เป็นไปตามหลักเกณฑ์ 2% ของราคาประเมินราคาที่ดิน 2.5 แสนบาทต่อ ตร.วา ซึ่งเป็นเกณฑ์เดียวกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และเป็นสิ่งที่จุฬาฯ มองว่าควรวางเป็นมาตรฐาน
โดยพื้นที่ในส่วนที่กรมพลศึกษาเช่าจากจุฬาฯ ประกอบด้วย สนามศุภชลาศัย สนามเทพหัสดิน อาคารกีฬานิมิบุตร และสระว่ายน้ำวิสุทธารมณ์ ซึ่งหมดสัญญา และต้องส่งคืนพื้นที่ตั้งแต่ 30 ก.ย.2555 ที่ผ่านมา แต่ปัจจุบัน ยังไม่ได้รับการติดต่อต่อสัญญา และส่งคืนพื้นที่ 11 ไร่ดังกล่าว
