แบงก์กรุงเทพประกาศกำไรปี 55 จำนวน 3.3 หมื่นล้าน โต 20.8% จากสินเชื่อที่เติบโตได้ 9.1% มั่นใจปีนี้แนวโน้มดีต่อเนื่อง
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL)และบริษัทย่อยแจ้งว่า มีกำไรสุทธิสำหรับปี 2555 จำนวน 33,021 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,684 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.8 จากปี 2554 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2,256 ล้านบาท รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 920 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายจากการดาเนินงานเพิ่มขึ้น 1,802 ล้านบาท และในปีนี้ สินเชื่อเติบโตได้ดีต่อเนื่อง โดย ณ 31 ธันวาคม 2555 ธนาคารมีสินเชื่อจำนวน 1,604,391 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133,993 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.1 จากสิ้นปี 2554 โดยเป็นการเติบโตจากลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี และลูกค้าบุคคล
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) กล่าวว่า สินเชื่อของธนาคารในปี 2555 มีการเติบโตในระดับที่น่าพอใจ โดยธนาคารสามารถเติบโตได้สูงกว่าเป้าหมายในหลายกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ และลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี เป็นผลจากการที่ธนาคารมีการติดตามและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ทาให้ธนาคารสามารถคาดการณ์ความต้องการด้านต่างๆ ของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง และสามารถสนับสนุนลูกค้าในด้านต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
ส่วนในปี 2556 ธนาคารคาดว่า สินเชื่อยังคงมีการเติบโตที่ดี โดยความต้องการสินเชื่อยังคงเป็นผลจากการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องของภาคเอกชน ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในทุกภาคส่วนของประเทศ
ด้านคุณภาพสินเชื่ออยู่ในระดับที่น่าพอใจ ณ สิ้นปี 2555 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลงเหลือ 42,325 ล้านบาท หรือจากร้อยละ 2.7 ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 เป็นร้อยละ 2.3 ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 ขณะที่เงินรับฝากเติบโตได้ดี เป็นผลจากการที่ธนาคารออกผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม ทำให้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 ธนาคารมีเงินรับฝากจำนวน 1,834,654 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 246,820 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.5 จากสิ้นเดือนธันวาคม 2554
กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีเงินได้มีจำนวน 40,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,154 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.0 จากปีก่อน โดยมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญ และขาดทุนจากการด้อยค่า จานวน 7,248 ล้านบาท ลดลง 4,779 ล้านบาท จากปี 2554
และธนาคารมีฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง หากนับรวมกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 เข้าเป็นเงินกองทุนของธนาคาร อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นและเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 17.2 และร้อยละ 12.8 ตามลำดับ