“รวงข้าว”ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ดันธุรกิจตลาดเงินตลาดทุนกลับมาเติบโตอีกครั้ง หลังประสบปัญหารุมเร้ารอบด้าน คาดในปีนี้จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดทุนด้วยการจัดจำหน่ายหุ้นกู้สูงต่อเนื่องปีนี้ราว 4 แสนล้านบาท ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทจะแข็งต่อเนื่องตลอดปี 56 แตะระดับ 29.00 บาทต่อดอลลาร์
นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี 2556 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้น หลังจากที่ชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะปัญหาการคลังของสหรัฐฯ โดยเฉพาะเรื่องเพดานหนี้ที่คาดว่าจะสร้างความผันผวนให้แก่ตลาดการเงินค่อนข้างมากในระยะอันใกล้ ส่วนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีนบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตสามารถกลับมาขยายตัวในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากจีนยังต้องพึ่งพาการเติบโตของเศรษฐกิจโลกเพื่อสนับสนุนการส่งออก
สำหรับเศรษฐกิจของยูโรโซนยังอยู่ในแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งการแก้ปัญหาหนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาถือเป็นการแก้ไขปัญหาในเรื่องสภาพคล่อง และความพยายามประคับประคองความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ และการคลังยังไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร หลายประเทศในยูโรโซนจึงยังมีความเสี่ยงสูง เช่น ประเทศกรีซ ที่ถึงแม้ได้รับการอนุมัติเงินช่วยเหลือในช่วงปลายปี เป็นการแก้ปัญหาทางด้านสภาพคล่องระยะสั้นมากกว่าการแก้ปัญหาแบบบูรณาการ คาดว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตดี โดยจะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย ประเมินว่า ความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อ และด้านการเติบโตของเศรษฐกิจจะกลับมาสู่ความสมดุลมากขึ้นในปีนี้ จึงน่าจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายทรงตัวอยู่ที่ 2.75%
ในส่วนของตลาดเงิน การเคลื่อนไหวของอัตราแลกแปลี่ยนในปี 2555 มีความผันผวนลดลง เมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหน้า ทั้งค่าเงินบาท และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยคาดว่าค่าเงินบาทในปี 2556 ยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นไปทดสอบระดับ 29.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงครึ่งปีแรก และแข็งค่าต่อเนื่องสู่ระดับ 29.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจากประเทศเศรษฐกิจหลัก
สำหรับส่วนของตลาดทุน การจำหน่ายหุ้นกู้ระยะยาวภาคเอกชนในปี 2555 ยังคงมีการเติบโตที่ดี โดยปริมาณการจำหน่ายสูงถึง 5.09 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับ 2.46 แสนล้านบาทในปี 2554 และธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ระยะยาวภาคเอกชนที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ใน 2 ลำดับแรกในปี 2555 สำหรับในปี 2556 จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังกระจุกตัวอยู่ในระดับต่ำ จึงคาดว่าแนวโน้มภาคเอกชนจะยังคงออกหุ้นกู้ระยะยาวอย่างต่อเนื่อง หรือประมาณ 4.10 แสนล้านบาท และคาดว่าธนาคารจะรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดไว้ได้
ด้านการค้าตราสารหนี้ภาครัฐ ในปี 2555 ปริมาณการค้าตราสารหนี้ภาครัฐเพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 26.5 ล้านล้านบาท เนื่องมาจากการถือครองตราสารหนี้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ จากในปี 2554 อยู่ที่ประมาณ 4 แสนล้านบาท เป็น 7 แสนล้านบาทในปี 2555 นอกจากนี้ ภาวะอัตราดอกเบี้ยขาลงในปี 2555 หลังปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ มีส่วนสนับสนุนให้ปริมาณการลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มขึ้นด้วย โดยในปี 2555 ธนาคารกสิกรไทยมีสัดส่วนการค้าตราสารหนี้ภาครัฐในภาพรวมเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 11.5% ของตลาด