ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูเก็ตตั้งรางวัลนำจับคนร้ายก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสเจ้าฟ้า ภูเก็ต 1 แสนบาท ชุดไล่ล่าตามเก็บเสื้อแจ็กเกตที่คนร้ายสวมใส่ในช่วงก่อเหตุถูกทิ้งในถังขยะ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 250 เมตร สั่งชุดสืบสวนไล่ล่าแกะรอยต่อ
เมื่อเวลา 20.30 น. วันนี้ (7 ม.ค.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ และ พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวิชิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากทุกสถานีตำรวจ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนเข้าชิงทรัพย์ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสเจ้าภูเก็ต ภูเก็ต ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 12.30 น. วันเดียวกัน
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการประชุมร่วมว่า จากการสืบสวนติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างต่อเนื่องพบว่าขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าหลังก่อเหตุได้ขับรถมุ่งหน้าไปทางซอยอนุสรณ์ 5 ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 250 เมตร นอกจากนั้น ยังพบเสื้อแจ็กเกตสีน้ำตาลที่คนร้ายสวมใส่ในช่วงที่ก่อเหตุถูกถอดทิ้งไว้ในถังใส่ขยะสีน้ำเงิน ส่วนตัวคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงแล้ว รวมทั้งขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปากโดยเฉพาะในส่วนของเจ้าหน้าที่ธนาคาร
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่รู้ข่าวเป็นอย่างมาก หากประชาชนพบเห็นเบาะแสของคนร้ายก็สามารถแจ้งข้อมูลให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ โดยผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุม โดยมีรางวัลนำจับ 100,000 บาท ให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้สวมหมวกกันน็อกสีฟ้าขาวมีลายการ์ตูน ส่วนรถที่ใช้ก่อเหตุขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบป้ายทะเบียนรถ ขณะที่เสื้อที่คนร้ายถอดทิ้งไว้นั้นได้ส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวบุคคลแล้ว ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นของจริง หรือของปลอม
พล.ต.ต.โชติ กล่าวต่อไปว่า กรณีที่คนร้ายเลือกก่อเหตุเฉพาะธนาคารกสิกรไทยนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็มีความหนักใจเช่นเดียวกัน เพราะธนาคารนั้นเป็นแหล่งที่เก็บเงินสดจำนวนมาก ซึ่งปกติก็ล่อตาล่อใจให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุอยู่แล้ว ประกอบกับทางธนาคารกสิกรไทย ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำให้ง่ายต่อการก่อเหตุเข้าไปอีก ซึ่งถ้ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็จะได้ตรวจสอบ และคอยเตือนไม่ให้คนร่ายสวมหมวก หรือแว่นตาเข้าไปในธนาคารได้ และจะทำให้คนที่คิดจะลงมือก่อเหตุไม่กล้าที่จะลงมือ
สำหรับธนาคารกสิกรไทยนั้น ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตเมื่อปี 2555 ถูกคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าไปชิงทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเกิดที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสเจ้าฟ้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2555 และครั้งที่ 2 เหตุเกิดที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 31 ต.ค.55 ซึ่งสังเกตได้ว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตคนร้ายเลือกลงมือเฉพาะธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแล ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เตือน และให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการไปแล้วในการป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ
เมื่อเวลา 20.30 น. วันนี้ (7 ม.ค.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ และ พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรวิชิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจากทุกสถานีตำรวจ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนเข้าชิงทรัพย์ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสเจ้าภูเก็ต ภูเก็ต ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 12.30 น. วันเดียวกัน
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการประชุมร่วมว่า จากการสืบสวนติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างต่อเนื่องพบว่าขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าหลังก่อเหตุได้ขับรถมุ่งหน้าไปทางซอยอนุสรณ์ 5 ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 250 เมตร นอกจากนั้น ยังพบเสื้อแจ็กเกตสีน้ำตาลที่คนร้ายสวมใส่ในช่วงที่ก่อเหตุถูกถอดทิ้งไว้ในถังใส่ขยะสีน้ำเงิน ส่วนตัวคนร้ายได้ขับรถหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงแล้ว รวมทั้งขณะนี้ได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปากโดยเฉพาะในส่วนของเจ้าหน้าที่ธนาคาร
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่รู้ข่าวเป็นอย่างมาก หากประชาชนพบเห็นเบาะแสของคนร้ายก็สามารถแจ้งข้อมูลให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ โดยผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุม โดยมีรางวัลนำจับ 100,000 บาท ให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้สวมหมวกกันน็อกสีฟ้าขาวมีลายการ์ตูน ส่วนรถที่ใช้ก่อเหตุขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบป้ายทะเบียนรถ ขณะที่เสื้อที่คนร้ายถอดทิ้งไว้นั้นได้ส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อยืนยันตัวบุคคลแล้ว ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นของจริง หรือของปลอม
พล.ต.ต.โชติ กล่าวต่อไปว่า กรณีที่คนร้ายเลือกก่อเหตุเฉพาะธนาคารกสิกรไทยนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็มีความหนักใจเช่นเดียวกัน เพราะธนาคารนั้นเป็นแหล่งที่เก็บเงินสดจำนวนมาก ซึ่งปกติก็ล่อตาล่อใจให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุอยู่แล้ว ประกอบกับทางธนาคารกสิกรไทย ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำให้ง่ายต่อการก่อเหตุเข้าไปอีก ซึ่งถ้ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็จะได้ตรวจสอบ และคอยเตือนไม่ให้คนร่ายสวมหมวก หรือแว่นตาเข้าไปในธนาคารได้ และจะทำให้คนที่คิดจะลงมือก่อเหตุไม่กล้าที่จะลงมือ
สำหรับธนาคารกสิกรไทยนั้น ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตเมื่อปี 2555 ถูกคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าไปชิงทรัพย์มาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเกิดที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาโลตัสเจ้าฟ้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2555 และครั้งที่ 2 เหตุเกิดที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเทพกระษัตรี จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 31 ต.ค.55 ซึ่งสังเกตได้ว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตคนร้ายเลือกลงมือเฉพาะธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแล ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เตือน และให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการไปแล้วในการป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ