ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รอง ผบช.ภ.8 ติดตามคืบหน้าสอบสวนคดีฆ่านักธุรกิจฮังการี ที่ภูเก็ต เร่งรัดสำนวนก่อนส่งฟ้องศาล เบื้องตน ผู้ต้องหายังให้การไม่ตรงกัน ขณะที่ศพของผู้เสียชีวิตญาติติดต่อขอรับแล้ว
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.พิศณุ ม่วงแพรศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมคณะ ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ฐิติรัฐ อาษากิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ชุดสืบสวน สภ.ทุ่งทอง และพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งทอง เพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบสวนคดีฆ่า นายปีเตอร์ ไรซ์ อายุ 47 ปี นักธุรกิจชาวฮังการี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านไปพบศพชายชาวต่างชาติ ถูกฆ่าใส่ถุงพลาสติกสีดำนำมาโยนทิ้งบนเขาหลังหมู่บ้านซอยบางทอง 1 หมู่ 6 ต.ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ได้มีการสืบสวนหาข่าวจนทราบว่าผู้ตายคือ นายปีเตอร์ ไรซ์ และสามารถขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นศพ ผู้ต้องหาที่ 1 คือ นายโมเช่ เดวิด อิสเอลลี อายุ 38 ปี สัญชาติฮังการี และผู้ต้องหาที่ 2 นายหลุย หรือนายควาน ลาจอส ยอร์จ อายุ 48 ปี สัญชาติฮังการี ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน และติดต่อขอมอบตัว 1 คน
โดย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวสรุปคดีต่อที่ประชุม ว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งทอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพชาวต่างชาติ หลังรับแจ้งก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้มีการสืบสวนหาข่าวจนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน และจากการสอบปากคำ ในส่วนของผู้ต้องหาที่ 2 ได้ให้การน่าเชื่อถือกว่าผู้ต้องหาที่ 1 และเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก และสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อหลังจากนี้คือ การนำผู้ต้องหาที่ 2 ชี้ที่เกิดเหตุ รวมถึงเข้าตรวจยึดของกลางเพิ่มเติม ตามที่ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การไว้ เช่น อาวุธมีด คีมตัดเหล็ก เสื้อผ้าของผู้ตาย เป็นต้น แล้วก็นำเข้าสำนวนการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องภาพจากกล้องวงจรปิดต่างๆ ตามที่ปรากฏ เช่น ที่ท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก สมุย ผ่านด่านท่าฉัตรไชย และจุดที่ผู้ต้องหาไปปรากฏตัว และรวมถึงการเร่งรัดการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ญาติของผู้ตายได้ติดต่อมาขอรับศพ ซึ่งทางเราจะรีบนำศพส่งในวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) โดยทันที เพื่อที่จะให้เขาได้ตรวจพิสูจน์
ขณะที่ พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพรศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับ และติดตามจับผู้ต้องหาได้ 2 คนแล้ว คือนายโมเช่ เดวิด ซึ่งเป็นคู่กรณีที่มีปัญหาพิพาทเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน จากคำให้การเบื้องต้น ผู้ตายได้นำเอาที่ดินของผู้ต้องหาไปขายฝาก แล้วก็เอาเงินไป ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งติดต่อขอมอบตัวที่สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตรงนี้ทางผู้บัญชาการฯ ได้มอบหมายให้ตนมาติดตามความคืบหน้าการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อที่จะนำผู้ต้องหาทั้งสองคนขึ้นสู่การพิจารณาของศาล เพราะว่าเพียงแค่เราจับตัวได้ ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนความ หลักฐานต้องแน่นพอให้ศาลลงโทษบุคคลทั้งสองด้วย เนื่องจากยังมีรายละเอียดอีกมาก และผู้ต้องหาทั้งสองให้การไม่ตรงกัน รับสารภาพก็จริงแต่ให้การไม่ตรงกัน เราก็พยายามเอาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เช่น ดีเอ็นเอ ภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งพยานแวดล้อมตามเส้นทางที่ผู้ต้องหาก่อคดีแล้วเอาศพไปซ่อนเร้น อันนี้ตนก็มานั่งดูหลักฐานอีกรอบ เพื่อที่จะให้สำนวนรัดกุมแล้วก็มีหลักฐานเพียงพอที่ศาลจะลงโทษได้
“ส่วนจะส่งฟ้องศาลได้เมื่อไหร่นั้น ตนก็คิดว่าจะพยายามทำให้เร็วที่สุด แต่จะเมื่อไหร่นั้น ยังกำหนดวันเวลาที่แน่นอนไม่ได้ แต่ว่านโยบายของตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ให้นโยบายไว้ว่าพยายามให้รอบคอบ แล้วก็ให้เร็ว อย่างไรก็ตาม มีหลายๆ คดีเราก็สามารถฟ้องได้ในเพียงแค่สัปดาห์เดียว ตนก็มาคุมหลายคดีแล้ว อย่างในคดีชิงทรัพย์ฆ่าแหม่มออสซี่ที่กะรน จ.ภูเก็ต หรือคดีชิงทรัพย์ที่ธนาคารกสิกรไทยในเขตเมือง จ.ภูเก็ต สามารถส่งฟ้องได้รวดเร็ว เพราะว่าไม่ซับซ้อนเหมือนคดีนี้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกนิดหนึ่ง แต่คิดว่าไม่นานส่วนกรณีที่ว่า จะมีบุคคลที่ 3 ร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่นั้น ณ ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.วิศณุ ยังกล่าวถึงการเปรียบดีเอ็นเอด้วยว่า การเปรียบเทียบดีเอ็นเอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เราประสานกับทางกองพิสูจน์หลักฐานมาโดยตลอดอยู่แล้วตรงนี้ ทางพิสูจน์หลักฐานก็ให้ความร่วมมือเต็มที่อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ตอนนี้ญาติมาติดต่อขอรับศพกลับไปแล้ว แต่ทางเราขอดูรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนที่จะมอบศพให้แก่ทางญาติซึ่งจะทำให้รอบคอบที่สุด
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.พิศณุ ม่วงแพรศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมคณะ ประชุมร่วมกับ พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีระยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปะลาวัน ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ฐิติรัฐ อาษากิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ชุดสืบสวน สภ.ทุ่งทอง และพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งทอง เพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบสวนคดีฆ่า นายปีเตอร์ ไรซ์ อายุ 47 ปี นักธุรกิจชาวฮังการี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านไปพบศพชายชาวต่างชาติ ถูกฆ่าใส่ถุงพลาสติกสีดำนำมาโยนทิ้งบนเขาหลังหมู่บ้านซอยบางทอง 1 หมู่ 6 ต.ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ได้มีการสืบสวนหาข่าวจนทราบว่าผู้ตายคือ นายปีเตอร์ ไรซ์ และสามารถขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นศพ ผู้ต้องหาที่ 1 คือ นายโมเช่ เดวิด อิสเอลลี อายุ 38 ปี สัญชาติฮังการี และผู้ต้องหาที่ 2 นายหลุย หรือนายควาน ลาจอส ยอร์จ อายุ 48 ปี สัญชาติฮังการี ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน และติดต่อขอมอบตัว 1 คน
โดย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวสรุปคดีต่อที่ประชุม ว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งทอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพชาวต่างชาติ หลังรับแจ้งก็ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้มีการสืบสวนหาข่าวจนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน และจากการสอบปากคำ ในส่วนของผู้ต้องหาที่ 2 ได้ให้การน่าเชื่อถือกว่าผู้ต้องหาที่ 1 และเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก และสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อหลังจากนี้คือ การนำผู้ต้องหาที่ 2 ชี้ที่เกิดเหตุ รวมถึงเข้าตรวจยึดของกลางเพิ่มเติม ตามที่ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การไว้ เช่น อาวุธมีด คีมตัดเหล็ก เสื้อผ้าของผู้ตาย เป็นต้น แล้วก็นำเข้าสำนวนการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องภาพจากกล้องวงจรปิดต่างๆ ตามที่ปรากฏ เช่น ที่ท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก สมุย ผ่านด่านท่าฉัตรไชย และจุดที่ผู้ต้องหาไปปรากฏตัว และรวมถึงการเร่งรัดการตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอ ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ญาติของผู้ตายได้ติดต่อมาขอรับศพ ซึ่งทางเราจะรีบนำศพส่งในวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) โดยทันที เพื่อที่จะให้เขาได้ตรวจพิสูจน์
ขณะที่ พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพรศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับ และติดตามจับผู้ต้องหาได้ 2 คนแล้ว คือนายโมเช่ เดวิด ซึ่งเป็นคู่กรณีที่มีปัญหาพิพาทเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน จากคำให้การเบื้องต้น ผู้ตายได้นำเอาที่ดินของผู้ต้องหาไปขายฝาก แล้วก็เอาเงินไป ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งติดต่อขอมอบตัวที่สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตรงนี้ทางผู้บัญชาการฯ ได้มอบหมายให้ตนมาติดตามความคืบหน้าการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อที่จะนำผู้ต้องหาทั้งสองคนขึ้นสู่การพิจารณาของศาล เพราะว่าเพียงแค่เราจับตัวได้ ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนความ หลักฐานต้องแน่นพอให้ศาลลงโทษบุคคลทั้งสองด้วย เนื่องจากยังมีรายละเอียดอีกมาก และผู้ต้องหาทั้งสองให้การไม่ตรงกัน รับสารภาพก็จริงแต่ให้การไม่ตรงกัน เราก็พยายามเอาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เช่น ดีเอ็นเอ ภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งพยานแวดล้อมตามเส้นทางที่ผู้ต้องหาก่อคดีแล้วเอาศพไปซ่อนเร้น อันนี้ตนก็มานั่งดูหลักฐานอีกรอบ เพื่อที่จะให้สำนวนรัดกุมแล้วก็มีหลักฐานเพียงพอที่ศาลจะลงโทษได้
“ส่วนจะส่งฟ้องศาลได้เมื่อไหร่นั้น ตนก็คิดว่าจะพยายามทำให้เร็วที่สุด แต่จะเมื่อไหร่นั้น ยังกำหนดวันเวลาที่แน่นอนไม่ได้ แต่ว่านโยบายของตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ให้นโยบายไว้ว่าพยายามให้รอบคอบ แล้วก็ให้เร็ว อย่างไรก็ตาม มีหลายๆ คดีเราก็สามารถฟ้องได้ในเพียงแค่สัปดาห์เดียว ตนก็มาคุมหลายคดีแล้ว อย่างในคดีชิงทรัพย์ฆ่าแหม่มออสซี่ที่กะรน จ.ภูเก็ต หรือคดีชิงทรัพย์ที่ธนาคารกสิกรไทยในเขตเมือง จ.ภูเก็ต สามารถส่งฟ้องได้รวดเร็ว เพราะว่าไม่ซับซ้อนเหมือนคดีนี้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกนิดหนึ่ง แต่คิดว่าไม่นานส่วนกรณีที่ว่า จะมีบุคคลที่ 3 ร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่นั้น ณ ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.วิศณุ ยังกล่าวถึงการเปรียบดีเอ็นเอด้วยว่า การเปรียบเทียบดีเอ็นเอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เราประสานกับทางกองพิสูจน์หลักฐานมาโดยตลอดอยู่แล้วตรงนี้ ทางพิสูจน์หลักฐานก็ให้ความร่วมมือเต็มที่อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ตอนนี้ญาติมาติดต่อขอรับศพกลับไปแล้ว แต่ทางเราขอดูรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนที่จะมอบศพให้แก่ทางญาติซึ่งจะทำให้รอบคอบที่สุด
