“ยูนิเวนเจอร์” หนึ่งในอาณาจักรธุรกิจอสังหาฯของตระกูล " สิริวัฒนภักดี " เผยอยู่ระหว่างสำรวจทรัพย์สินโกลเด้นแลนด์อย่างละเอียดก่อนวางแผนดำเนินงานคาดได้ข้อสรุปภายในมีนาคม 56 วางเป้า 2 ปีพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร ระบุให้พัฒนาบ้านแนวราบ ขณะที่แกรนด์ยูพัฒนาคอนโดฯ ตั้งเป้าปี 56 รายได้ 5,200 ล้านบาท
นางอรฤดี ณ ระนอง ประธานอำนวยการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้เพิ่มทุนจำนวน 5,736 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้นบริษัทแกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด จำนวน 761ล้านบาทกลายเป็นผู้ถือหุ้นแต่เพียงผู้เดียว 100% และบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ วงเงิน 3,747 ล้านบาท กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 50.64% สำเร็จนั้น เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การที่บริษัทถือหุ้นในแกรนด์ยูฯ 100% จะทำให้การบริหารงานคล่องตัวมากขึ้นและสามารถรับรู้รายได้ทั้ง 100% ซึ่งบริษัทได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานของแกรนด์ยูฯเช่นเดิม คือ การพัฒนาโครงการประเภทอาคารสูง คอนโดมิเนียม ซึ่งในปีนี้เตรียมเปิดโครงการมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ทั้งยังเตรียมงบซื้อที่ดินไว้ 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการในอนาคต
อนึ่ง สำหรับบริษัท ยูนิเวนเจอร์ ฯ ปัจจบันมีบริษัท อเดลฟอส จำกัด ของกลุ่มนายฐาปนและนายปณต สิริวัฒนภักดี ลูกชายนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 57.59%
สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานยูนิเวนเจอร์ฯ ในปี 56 มีรายได้ 5,200 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากบริษัทแกรนด์ยูฯ 3,600 ล้านบาท จากธุรกิจสังกะสีอ๊อกไซด์ 1,200 ล้านบาท และอีก 290 ล้านบาท มาจากโครงการปาร์คเวนเซอร์ ดิอีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เช่าแล้วกว่า 80% อัตราค่าเช่าประมาณ 900 บาท/ตร.ม.
“สำหรับการลงทุนในโกลเด้นแลนด์ เรามองว่าทรัพย์สินหลายอย่างมีมูลค่าอยู่ในตัวเอง และการที่โกลเด้นแลนด์ไม่มีผู้ถือหุ้นหลัก แสดงว่าไม่มีเงินทุนในการดำเนินงานในอนาคต อีกทั้งยังง่ายต่อการบริหารงานหากเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งขั้นแรกเราต้องเข้าไปดูทรัพย์สินทุกตัวอย่างละเอียด เช่น การสร้างรายได้ หนี้สิน หลังจากนั้นจึงจะมาวางยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานต่อไป ส่วนทรัพย์สินใดที่เห็นว่าไม่สร้างรายได้ หรือไม่ใช่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็อาจจะขายออกไป ซึ่งบริษัทได้มอบหมายให้นายธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทยูนิเวนเจอร์ฯ เข้าไปบริหารงานในตำแหน่งประธานอำนวยการ
ด้านนายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ โกลเด้นแลนด์ฯ กล่าวว่า ได้เข้าไปทำงานที่โกลเด้นแลนด์ได้เพียง 2 สัปดาห์ ซึ่งในช่วงแรกจะต้องเข้าไปตรวจสอบสินทรัพย์ หนี้สินอย่างละเอียด ซึ่งมีทั้ง โครงการจัดสรร คอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงาน สนามกอล์ฟ และโรงแรม หลังจากนั้นจะมาวางแผนการดำเนินงานเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้
“ แม้ว่าตอนซื้อจะรู้ว่าทรัพย์สินของโกลเด้นแลนด์ มีอะไรบ้าง จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้มาน้อยเพียงใด แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าโกลเด้นแลนด์จะทำอะไรต่อไป เพราะต้องเข้าไปดูทรัพย์สินแต่ละตัวอย่างละเอียดก่อนวางยุทธศาสตร์การดำเนินงาน ซึ่งการลงทุนต้องใช้เวลากว่าจะทำให้โกลเด้นแลนด์พลิกจากขาดทุน 1,200 -1,400 ล้านบาทในปัจจุบันมาเป็นกำไรได้ แต่ตั้งเป้าไว้ว่าไม่เกิน 2 ปี ” นายธนพลกล่าว
ในปี 56 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 5,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 55 ที่มีรายได้รวมประมาณ 4,400 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3,700 ล้านบาท และเติบโตกว่า 23% จากปี 54
บริษัทคาดว่ารายได้ในปีนี้จะมาจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของบริษัท แกรนด์ยูนิตี้ ประมาณ 3,600 ล้านบาท รวมทั้งจากธุรกิจสังกะสีออกไซด์ประมาณ 1,200 ล้านบาท และอีก 290 ล้านบาทจะมาจากโครงการปาร์คเวนเชอร์ ดิ อีโคเพล็กซ์ ออน วิทยุ ที่เปิดให้บริการสมบูรณ์แบบทั้งสำนักงานเกรดเอ ที่มาผู้เช่าแล้วกว่า 80%
ด้านนายธนพล ศิริธนชัย ผู้บริหาร UV ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทองฯ กล่าวว่า เป็นความท้าทายอย่างมากในภารกิจนี้ เพราะ GOLD มีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องหลายปี และในปี 55 ก็คาดว่ายังคงขาดทุนอยู่ แต่เชื่อมั่นว่าจะพลิกฟื้นสถานะของ แผ่นดินทอง ให้กลับมาเป็นบริษัทชั้นนำ
" ขณะนี้เรากำลังทำการศึกษา วิเคราะห์ทรัพย์สินโดยละเอียดและจัดทำแผนธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท คาดว่าจะสรุปแผนทั้งหมดได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้"นายธนพล กล่าว